ยังคงคำแนะนำเพียง Trading

กรอบ SET INDEX 1670-1687

Market Outlook

เมื่อคืนสหรัฐฯ รายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐ New York ที่ -32.9 นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2020 และต่ำกว่าตลาดประเมินไว้ที่ 8.7 โดยรายงานได้ระบุเพิ่มเติมว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวอย่างมากใน New York โดยคำสั่งซื้อใหม่และการขนส่งหดตัวลง ขณะที่สินค้าคงคลังปรับเพิ่มขึ้นเมื่อมองไปข้างหน้าบริษัทต่างๆ คาดการณ์ว่า สภาพธุรกิจจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย ภาวะดังกล่าวกำลังสะท้อนถึงการหดตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยคืนนี้ติดตาม ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์หดตัว 0.8% MoM ดังนั้นยังเชื่อว่าความกังวล Recession จะตามมาหลังจากนี้ ส่วนวันพรุ่งนี้ติดตามยอดสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐฯ และใบขออนุญาตก่อสร้าง Bloomberg ประเมินที่ 1.36 ล้านหลังคาเรือนและ 1.37 ล้านใบอนุญาต

โดยวันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1670-1687 ภาพรวมยังคงไร้ปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยยะสำคัญ ส่วนเช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบราว +0.3%ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงรอดูผลประกอบการ 4Q22 ที่จะทยอยประกาศออกมา Bloomberg ประเมินว่าในสัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะทยอยประกาศผลประกอบการออกมา อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นกลุ่ม Bank ที่ปรับขึ้นมา 7.7% เชื่อว่ารับรู้ผลประกอบการที่จะออกมาดีไปแล้วจึงระมัดระวังต่อแรง Sell In Fact มากกว่า

เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงไม่แนะเพิ่มพอร์ตการลงทุน เน้นเป็นเพียงแค่ Trading ระยะสั้นมากกว่า เนื่องจากยังคง กังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วงถัดไป ส่วนหุ้นแนะนำได้แก่ น้ำมัน (PTTEP) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มค้าปลีก (BJC, HMPRO) สนามบิน (AOT) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT) ขนส่ง (BEM)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

HMPRO ราคาพื้นฐาน 18.00 บาท

คาดว่ากำไรปี 2023 จะทำจุดสูงใหม่จากการขยายสาขา Mega Home ในเชิงรุก การบริโภคที่ฟื้นตัวก่อนเลือกตั้ง และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าที่พุ่งสูงขึ้น

CENTEL ราคาพื้นฐาน 56.00 บาท

คาด CENTEL จะมีกำไร 4Q22 ที่ 299 ล้านบาท (+96% YoY) หนุนจากการแข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรม โดย RevPar กลับมาทดสอบระดับ 90% ของปี 2019 (ไม่รวมโรงแรมในดูไบ) ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารคาดว่าจะมีรายได้สูงสุด เป็นประวัติการณ์หนุนจากยอดขายต่อสาขาที่ขยายตัว 12% ในช่วง 4Q22

Pi Technical Daily

- Advertisement -