ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ยังคงแกว่งตัวในกรอบต่อไป

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธเทรดไซด์เวย์ต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบจำกัด ก่อนปิดลบเล็กน้อย (ตามคาด) หลังหุ้นกลุ่มธนาคารฯ เผชิญแรงขาย ขณะที่หุ้นกลุ่มการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ พักฐานเช่นกัน….. ด้านปัจจัยแวดล้อมของตลาดหุ้นวันนี้เป็นกลาง กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อคืน แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ถูกกระทบเชิงลบจากผลประกอบการไตรมาส 4/2556 ของ Goldman Sachs ที่ต่ำกว่าตลาดคาดค่อนข้างมาก ii) นักลงทุนชะลอเพื่อติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม โดยในคืนวันนี้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 2565… ทั้งนี้ในระยะสั้น หุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีน่าจะกลับมาโดดเด่นกว่าดัชนีฯ หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว และเมื่อวานนี้จีนรายงาน GDP ไตรมาส 4/2565 โต 2.9% YoY ดีกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 1.8% YoY ค่อนข้างมาก… ด้านปัจจัยภายในประเทศ ให้ติดตามผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ฯ ที่จะทยอยออกมาคึกคักตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ เป็นต้นไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร LEO, SHR, ASK

  • LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.8 บาท / แนวต้าน 13.2 – 13.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 14.0 บาท (Stop loss 12.4 บาท) 2) ประเมินการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังเทศกาลตรุษจีน i) คาดค่าระวางเรือคอนเทนเทนเนอร์โดยเฉพาะในเส้นทางภูมิภาคเอเชียมี Downside ที่ต่ำแล้ว มี Upside จากการเปิดประเทศของจีน ii) คาด LEO ที่เป็นพันธมิตรกับ China Post Yunnan จะรับอานิสงค์โดยตรง ii) คาดธุรกิจ Sourcing & Supply Chain จัดหาสินค้าไทย (จีน) ไปขาย E-commerce ที่จีน (ไทย) จะได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทย – จีนที่ฟื้นตัว 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ปี 2566 ต่ำเพียง +/- 11.5 เท่า ขณะที่คาดกำไรปี 2566 ยังเติบโต +6% YoY ทะลุ +400 ล้านบาท
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.34 บาท / แนวต้าน 4.6 – 4.7 บาท (Stop loss 4.20 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามอัตราการเข้าพักโรงแรมที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินเฟ้อในยุโรปไว้แล้ว ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ คาดปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกได้ราว 270 ล้านบาท … เราประเมินประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯ มี Upside จากกรณีที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด 3) PBV ต่ำเพียง 0.92 เท่า ขณะที่คาดปีนี้ Turnaround
  • ASK (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 34.25 บาท / แนวต้าน 36.0 – 37.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 39 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินแนวโน้ม Sentiment บวกจาก i) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการได้ปรับเรตติ้งขึ้นเป็น A ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (เดิม BBB+) ii) คาดการเปิดประเทศ (ไทย – จีน) หนุนโอกาสการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุก (การขนส่งพื้น) รถบัส (การท่องเที่ยวขึ้น) 3) + Consensus คาดจ่ายปันผลสำหรับปี 2565 หุ้นละ 1.4 บาท (Yield 4.0%) และคาดกำไรปี 2566 โต +20% YoY หนุนให้ Forward PE บนประมาณการปี 2566 ต่ำเพียง 10.5 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) BTS* แรบบิทร่วม BBL* ลุยตั้งเวอร์ชวลแบงก์ (ข่าวหุ้น) กลุ่ม “แรบบิท” บีทีเอส เจรจา “แบงก์ กรุงเทพ” ร่วมกันชิงใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารได้สาขา หรือ Virtual bank ลุยด้านการเงินเต็มรูปแบบ ด้านผู้บริหาร BTS* เผยยังไม่มีรายงานบอร์ดขณะนี้ แต่ถ้ามี คาดอยู่ในธุรกิจ MIX ของบริษัท ส่วนสายสีเขียว มั่นใจชนะคดีกทม.และ KT แน่นอน

(0) BTS* โต้ “กรุงเทพธนาคม” ยันสัญญาเดินรถถูกกฎหมาย (กรุงเทพธุรกิจ) “บีทีเอส” โต้ “กรุงเทพธนาคม” สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกต้อง ก่อนลงนามผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายกฎหมาย แย้งที่ผ่านมาเคยได้รับค่าจ้างแต่สะดุดหลังคำสั่ง คสช. ลั่นกรณีภาครัฐออกมาดิสเครดิตกระทบความเชื่อมั่นการลงทุนโครงการรัฐเอง ยืนยันต้องการทวงจ่ายหนี้ค้างชำระ 2.3 หมื่นล้านบาท ถามกลับถ้าสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมายจะให้เลิกเดินรถหรือไม่

(+) ILINK ลุ้นเทนเดอร์หุ้น ITEL เล็งลดสัดส่วนถือต่ำกว่า 50% (ทันหุ้น) ITEL เผยบริษัทแม่ ILINK ถือหุ้นเพิ่มเป็น 50.28% หลังใช้สิทธิแปลงสภาพ (TEL-W3 ปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือ ก.ล.ต. เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ต่ำกว่า 50% เพื่อจะได้ไม่ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ เล็งขายหุ้นให้ “ณัฐนัย อนันตรัมพร” ขณะที่ ITEL กางแผนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 3.5 พันล้านบาท และจะดันบริษัทย่อยเข้าตลาดในไตรมาส 4/2566 รวมถึงมีอัพไซด์จากโครงการที่เข้าประมูลใหม่ในปีนี้

(+) TPCH ลุยโปรเจ็กต์ 100 เมก เดินเครื่องโรงไฟฟ้าเต็มสูบ (ทันหุ้น) TPCH กางแผนลุยโครงการต่างประเทศ CLV เล็งผนึกพาร์ตเนอร์ศึกษาโปรเจ็กต์ยักษ์ 100 เมกะวัตต์ สนพลังงานลม และโซลาร์เซลล์ คาดชัดเจนไตรมาส 1/2566 ส่วนโครงการในประเทศเล็ง COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน 2.85 เมกะวัตต์ พร้อมบุกเงินเข้าปีนี้ทันที

(+) TRU ดัน BizNex ส่งมอบตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า 450 คันปลายปี 65 รอส่งอีก 300 คันปลายปีนี้ (ข่าวหุ้น) TRU โชว์ความสำเร็จ BizNex บริษัทร่วมผู้ผลิตรถไฟฟ้าสัญญาติไทยแท้ ส่งมอบรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า 450 คัน กินส่วนแบ่งตลาดรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าในไทยถึง 87% ตุนสินค้าค้างส่งกว่า 300 คัน รอส่งมอบภายในปีนี้

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนำ “Let profit run” โดยกําหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 101 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32.25 บาท / แนวต้าน 34-35 บาท (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) แนวรับ 154 บาท / แนวต้าน 159-161 (Trailing stop 154 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.2-22.4 บาท (Trailing stop 21.3 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 35-36 บาท (Trailing stop 33.5 บาท)
  • ADVANC* (เป้า IAA Consensus 235 บาท) แนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 204-207 บาท (Stop loss 199 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) แนวรับ 5.65 บาท / แนวต้าน 5.9-6.2 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 12.3 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.2-11.4 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 23.3 บาท) แนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 18.3-18.5 บาท (Stop loss 17.6 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 29.75 บาท / แนวต้าน 30.75-31.5 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 23.6 บาท / แนวต้าน 24.0-24.2 บาท (Stop loss 23.5 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 73.0 บาท / แนวต้าน 75.5-77.0 บาท (Stop loss 73.0 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 35.75 บาท / แนวต้าน 37.5-40.0 บาท (Stop loss 35.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • SICT แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 8.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q65 = 31 ล้านบาท (+438% YoY, -26% QoQ) ทั้งนี้ กำไรที่คาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY เป็นเพราะค่าใช้จ่ายเพื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์) ที่สูงใน 4Q64 ในขณะที่กำไรที่คาดจะลดลง QoQ จะเป็นเพราะค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดเป้าหมาย PE ลง เนื่องจากคาดอัตราการเติบโตของกำไรในปี 2566 ลดลง (ผลจากฐานสูงในปี 2565) จึงปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 8.9 บาท (เดิม 9.8 บาท)

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -