บล.บัวหลวง:
Asia Aviation (AAV TB/AAV.BK)
AAV – เตรียมรายงานกำไรครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1/62
การเปิดประเทศจีนอีกครั้งหนุนให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยปรับตัวขึ้น และเราเชื่อว่า AAV จะรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 4/65 และการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เราคาดจะเห็นสารสําคัญที่เป็นบวกจากผู้บริหารของ AAV ที่จะมาเข้าร่วมงาน BLS Tourism Day ของเราในวันที่ 19 ม.ค.
นักท่องเที่ยวจีนกำลังกลับมา!
การเปิดประเทศจีนอีกครั้ง ทำให้ประชาชนสามารถกลับเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น หลังจากเดินทางไปต่างประเทศ (การกักตัวก่อนเข้าประเทศถูกยกเลิกแล้ว) เราคาดจะเห็นนักท่องเที่ยวจีน 3 แสนรายที่จะเข้ามาประเทศไทยในช่วง ไตรมาส 1/66 และมากกว่า 1 ล้านรายในไตรมาส 2/66 ขณะที่อุปสงค์ต่อการท่องเที่ยวกำลังกลับมาอย่างแข็งแกร่ง แต่จํานวนเที่ยวบินปรับตัวขึ้นในอัตราที่ช้ากว่า ดังนั้นมีแนวโน้มที่ราคาตั๋วโดยสารจะสูงขึ้นอย่างมีนัย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นน่าจะชดเชย ได้บางส่วนจากการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมัน (ซึ่งรวมต้นทุนเชื้อเพลิงบางส่วน เข้าไปในราคาตั๋วโดยสาร)
คาดจะเห็นกำไรสุทธิในไตรมาส 4/65
ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 4/65 ดังนั้น AAV น่าจะรายงานกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวนมาก เราจึงคาดว่าบริษัทจะรายงานกําไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 1,881 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นกำไรไตรมาสแรกตั้งแต่ไตรมาส 1/62 อย่างไรก็ตาม เราประมาณการเชิงอนุรักษ์นิยมว่าผลประกอบการหลักจะขาดทุน 1,329 ล้านบาท ติดลบมากขึ้น 21% YoY (ถือสัดส่วนใน Thai AirAsia มากขึ้น) และ 13% QoQ (เราประมาณการเชิงอนุรักษ์นิยมว่าเครดิตภาษีจะลดลง)
ผลการดำเนินงานกําลังฟื้นตัว
AAV มีแนวโน้มที่จะรายงานขาดทุนหลักในไตรมาส 1/66 ที่ 454 ล้านบาท ลดลง 80% YoY และ 66% QoQ เป็นผลจากการกลับมาของเที่ยวบินต่างประเทศ (จากข้อจำกัดการเดินทางที่คลี่คลายในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีน) ราคาตั๋วที่สูงขึ้น (จากทั้งอุปทานที่จำกัดและการเพิ่มราคาจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น) และรายได้เสริมที่มากขึ้น (โดยทั่วไปรายได้ค่าบริการสัมภาระจะสูงกว่าในเที่ยวบินระหว่างประเทศ เนื่องจากกระเป๋ามักจะใหญ่กว่าเที่ยวบินภายในประเทศ) น่าจะหนุนให้รายงานการขาดทุนที่ลดลง ทั้งนี้แม้ว่าคาดจะเห็นการขาดทุน แต่เราคาด AAV จะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง
CORSIA-อุปทานสายการบินล้นตลาดเป็นอดีตไปแล้ว
แผนการลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอนสําหรับธุรกิจการบิน (CORSIA) กำหนดให้สายการบินตรวจสอบและรายงานการปล่อยคาร์บอนตั้งแต่ปี 2562 และซื้อหน่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากโครงการในภาคอื่นๆ เพื่อให้ ครอบคลุมการปล่อยคาร์บอนที่มากขึ้น ในช่วงภาคสมัครใจ (ปี 2564-69) ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกบ CORSIA จะต้องชดเชยคาร์บอนสําหรับเส้นทางบินระหว่างรัฐที่เข้าร่วมในช่วงเฟสแรก CORSIA จะกลายเป็นภาคบังคับในปี 2570 ดังนั้นจะเห็นการบังคับใช้แทบจะทุกเที่ยวบินต่างประเทศในปีดังกล่าว ภาระดังกล่าวมีแนวโน้มจะทำให้ต้นทุนของสายการบินสูงขึ้นเมื่อเพิ่มเส้นทางบินหรือเพิ่มเที่ยวบิน ดังนั้นจึงจะเห็นการเติบโตของอุปทานที่จำกัดของสายการบินในอนาคต