บล.บัวหลวง:

Home Construction Retail – คาดไตรมาส 4/65 จะอ่อนแอก่อนจะเข้าสู้ช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 1/65 (NEUTRAL)

เรายังคงชอบ GLOBAL มากกว่า DOHOME จากมูลค่าปัจจุบัน

กําไรของทั้ง GLOBAL และ DOHOME จะลดลงในไตรมาส 4/65 แต่ตั้งแต่เดือนม.ค.จนถึงปัจจุบัน ราคาเหล็กเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ค่าเงินบาทที่แข็ง และค่าระวางเรือที่ลดลง และช่วงไฮซีซั่นสําหรับธุรกิจค้าปลีกก่อสร้างน่าจะหนุนการฟื้นตัวในไตรมาส 1/66 เรายังชอบ GLOBAL มากกว่า DOHOME สําหรับการลงทุนระยะยาว

GLOBAL ในไตรมาส 4/55 อ่อนแอ (จากฐานที่สูงในไตรมาส 4/64)

GLOBAL คาดว่าจะรายงานทําไรหลักในไตรมาส 4/65 ที่ 653 ล้านบาท ลดลง 13% YoY และ 16% QoQ แม้เราคาดยอดขายสาขาเดิมจะปรับตัวลดลง 4.5% แต่ประมาณการยอดขายปลีกของเราอยู่ที่ 8,205 ล้านบาท ทรงตัว YoY และ QoQ เนื่องจากสาขาใหม่ 2 แห่งที่เปิดในปี 2565 ราคาเหล็กที่สูงในไตรมาส 4/64 ส่งผลให้มียอดขายและปริมาณขายเหล็กที่สูงในไตรมาส 4/64 (เหล็กคิดเป็น 20% ของยอดขายในปี 2564 เทียบกับ 15% ในปี 2565) ในขณะที่ราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/65 (โดยเฉพาะในเดือนธ.ค.) เป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมของ GLOBAL คาดว่าจะลดลง (เราคาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอยู่ที่ 2-3% ในเดือนต.ค.และพ.ย. 2565 จากนั้นยอดขายสาขาเดิมปรับตัวลดลง 8-9% ในเดือนธ.ค.) ราคาเหล็กที่ลดลงอย่างมาก  จะกดดันอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65 ของ GLOBAL โดยเราคาดอัตรากําไรขั้นต้นที่ 25.2% (เทียบกับ 25.5% ในไตรมาส 4/64 และ 25.8% ในไตรมาส 3/65)

น้ำท่วมส่งผลลบต่อผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของ DOHOME

DOHOME มีแนวโน้มรายงานขาดทุน 35 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 หากไม่รวมการตั้งสํารอง 85 ล้านบาทสําหรับผลกระทบจากน้ำท่วมที่สาขาอุบลราชธานี เราคาดกำไรหลักจะอยู่ที่ 50 ล้านบาทสําหรับไตรมาสนี้ ลดลง 85% YoY และทรงตัว QoQ เราคาดยอดขายสาขาเดิมลดลง 9% แต่ DOHOME เปิดสาขาใหม่ 7 แห่งในปี 2565 ดังนั้น เราคาดรายได้ไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 7,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 1% QoQ ราคาเหล็กที่ลดลงจะกดดันอัตราค่าไรขั้นต้นให้ปรับตัวลดลง โดยเราคาดที่ 14% ในไตรมาส 4/65 (เทียบกับ 16.6% ในไตรมาส 4/64 และ 13.3% ในไตรมาส 3/65) เราคาดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสาขาใหม่ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 13.4% จาก 11.4% ในไตรมาส 4/64 และ 12.6% ในไตรมาส 3/65

คาดกําไรฟื้นตัวในไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป

ด้วยราคาเหล็กที่ลดลงในช่วงปลายปี 2565 ผลกระทบต่ออัตรากําไรของทั้ง GLOBAL และ DOHOME จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับจากนี้เป็นต้นไป โดยดีมานด์ที่น่าจะดีขึ้นในช่วงไฮซีซั่นในไตรมาสแรกจะหนุนให้ GLOBAL และ DOHOME เริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไร QoQ เมื่อมองไปถึงครึ่งหลังของปี 2566 ปัจจัยอื่นๆ เช่น การเติบโตของยอดขายเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหยวน และค่าขนส่งที่ลดลงอย่างมาก ชี้ให้เห็นถึงอัตรากําไรที่มากขึ้น หนุนโดยยอดขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ตนเอง

เราเช่ือว่าตลาดส่วนใหญ่ได้สะท้อนการฟื้นตัวของกลุ่มค้าปลีกก่อสร้างไปในราคาแล้ว โดยเฉพาะ DOHOME ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (เทียบกับการปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% สำหรับ GLOBAL และ 8% สำหรับ SET) อิงจากมูลค่าปัจจุบันและความสามารถในการทำกำไร เรายังคงชอบ GLOBAL

- Advertisement -