บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +25.7%

Close Jan 17, 2022 Price 17.90

2023 Target 22.50

MAJOR CINEPLEX GROUP (MAJOR) ปี 2566 หนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวฉายแน่น

Event

  • เมื่อวานนี้ทาง MAJOR จัดงาน Coming Attraction 2023 เพื่อฉายหนังตัวอย่างพิเศษ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปี 2023 ซึ่งพบว่ามีภาพยนต์ฟอร์มใหญ่ๆ จากฝั่งฮอลิวูดเข้าฉายเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อน อาทิ Shazam2 Spiderman : Across the Spider Verse, Fast&Furious 10, Guardians of the Galaxy Vol.3. The Little Mermaid, Transformers : Rise of the Beasts, The Marvels, Mission Impossible -Dead Reckoning และภาพยนตร์ ไทย หลายเรื่อง อาทิ เธอกับฉันกับฉัน ของ GDH, แสงกระสือ2, ขุนพันธ์3 และ Home For rent เป็นต้น
  • บริษัทมีการเชิญบริษัทที่เป็นตัวแทนฉายหนังจากค่าย SONY PICTURES, WALT DISNEY, WARNER UIP และ MPIC มาให้ข้อมูลทิศทางอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทยในปี 2566 ส่วนใหญ่ให้มุมมองเป็นบวก เนื่องจากจำนวนภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ที่รอคิวฉาย เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 20% – เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อนสำหรับบางค่าย ส่วนกรณีที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถูก Disrupt จากธุรกิจ Streaming เนื่องจากภาพยนตร์ออกจากโรงภาพยนตร์เร็วขึ้น เนื่องจากคนเข้าโรงภาพยนตร์ลดลง ทางตัวแทนค่ายหนังให้ความเห็นว่านั้นเป็นช่วงของการระบาดของ COVID-19 ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย คนออกจากบ้านมากขึ้น ทางค่ายหนังจึงพอใจ กับรายได้จากการฉายในโรงภาพยนตร์ปกติมากกว่า สำหรับหนังฟอร์มใหญ่ๆ จึงไม่ถูกกระทบแรงเหมือนช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

Our Take

  • แนวโน้ม 4Q65 เราคาดจะเติบโต QoQ และ YoY เนื่องจากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ที่เข้าฉายหลายเรื่อง อาทิ Black Adam, Black Panther2 – Wakanda forever และ AVATAR2 ธุรกิจอื่นๆ เช่น ขายอาหาร ป๊อปคอน รวมถึงโบว์ลิ่ง คาดว่าจะเติบโตดีตามไปด้วย ส่วนธุรกิจโฆษณาจะเริ่มฟื้น ซึ่งคาดว่าบริษัทจะเริ่มลดการให้ส่วนลดกับลูกค้า ภาพรวมปี 2565 เราคาดผลประกอบการพลิกจากขาดทุนปกติในปี 2564 ที่ 627 ล้านบาท เป็นกำไร 244 ล้านบาท
  • แนวโน้มปี 2566 เราคาดกำไรยังฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง 272%YoY เป็น 907 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อเทียบปีก่อน ในครึ่งปีแรกยังมีผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งโรงภาพยนตร์ยังเปิดไม่เต็มที่ ขณะที่ปี 2566 จะมีภาพยนตร์ทั้งฮอลิวูดฟอร์มใหญ่ รวมถึงหนังไทยที่เข้าฉายมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทเริ่มกลับมาเพิ่มโรงหนัง และขยายธุรกิจโบว์ลิ่ง-คาราโอเกะ ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาสื่อโรงภาพยนต์คาดว่าจะยังปรับตัวดีกว่าสื่ออื่นๆ ขณะที่บริษัทมีการรุกธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มรายได้ อาทิ การจับมือกับ TKN ผลิตปิอปคอร์น และเพิ่มช่องทางการขายมากขึ้น
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าผลประกอบการอยู่ในช่วง turnaround คาดหวังผลประกอบการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องในปี 2565-2566 จากฐานที่ต่ำ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่บรรเทาความรุนแรงลง และใกล้กลับสู่ภาวะปกติ เราประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 22.50 บาท โดยอิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 7.4% ราคาหุ้นของ MAJOR ช่วงที่ผ่านมาปรับลดลงตาม sentiment ตลาด กอปรกับ MAJOR เพิ่งหลุด SET100 ในรอบที่ผ่านมา เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยเข้าสะสม
- Advertisement -