Our View? “ไม่ไหวก็ยังไม่ต้องไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,678 / 1,674 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,690 คาดตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกกิ่ง (Retail Sales) เดือน ธ.ค. ปรับตัวลง 11% MoM ต่ำกว่าที่ตลาดคาด จากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ธ.ค. ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อทางฝั่งของผู้ผลิตเดือน ธ.ค. ออกมาที่ระดับ 6.2% ลดลงต่อเนื่อง แต่ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐ (Industrial Production) เดือน ธ.ค. ออกมา -0.7% MoM แย่กว่าที่ตลาดคาดที่ -0.1% MoM สอดคล้องกับตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือน ม.ค. เมื่อวานนี้ ออกมา -32.9 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ -8.7 และต่ำกว่าเดือน ธ.ค. 65 ที่ระดับ -11.2 บ่งชี้แนวโน้ม ภาวะความหดตัวรุนแรงของภาคการผลิตในนิวยอร์ก สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาเซนต์หลุยส์ และนาง ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธาน FED สาขาคลีฟแลนด์ ยังคงออกมาแสดงความคิดเห็นให้ FED เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 5.00% เพื่อกดดันเงินเฟ้อให้ปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายทำกำไร กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงได้ในระยะสั้น

ขณะที่การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% ตามที่ตลาดคาด แต่ไม่ได้มีการขยายกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น และไม่ได้มีการส่งสัญญาณคุมเข้มทางการเงิน ผิดจากที่เราและตลาดคาดไว้ คาดจะส่งผลให้ค่าเงินเย็นอ่อนค่าลงได้ และกระตุ้น Dollar Index รีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น เป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจตลาดในภูมิภาคในเชิงของความได้เปรียบในด้านค่าเงินบ้างเล็กน้อย

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. เดือน ก.พ. เมื่อคืนนี้ ปรับตัวลดลงปิดที่ระดับ 79.48 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.70 ดอลลาร์ หรือ -0.87% จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบสู่ความต้องการใช้น้ำมัน คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้อีกครั้ง

สําหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้เราแนะนำติดตามการเริ่มรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ของหุ้นในกลุ่มธนาคาร คาดมีโอกาสชะลอตัวลงไปบ้างเล็กน้อย โดย Bloomberg Consensus คาดจะปรับตัวลดลง -1.03% QoQ แต่ +23.90% YoY ตามปัจจัยฤดูกาลมองเป็นปัจจัยระยะสั้น หนุนแรงขายทำกำไรได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนหิ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 10 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 ล้านคนได้ในปี 66 เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB, TKN และ SCC

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “PLANB”

กลยุทธ์ เก็งกำไร แนวรับ 8.70 / 8.50 Target 9.00 / 9.50 Stop <8.40

- Advertisement -