บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +20.5%
Close Jan 18, 2023 Price (THB) 24.90
12M Target (THB) 30.00
Previous Target (THB) 30.00
What’s new?
- คาดกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 103 ลบ. (+2.8% QoQ, +5.8% YoY) จากผลของฤดูกาล และการเทียบการส่งออกสินค้าไปยุโรปจาก 3Q65 มา 4Q65
- แนวโน้ม 1Q66 คาดได้ประโยชน์จากนโยบายช้อปดีมีคืน การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ทําให้บรรยากาศเอื้อต่อการจับจ่ายในประเทศ และใน CLMV
Our view
- คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SABINA
- คาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 468 ลบ. (+12.2% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ แม้ว่ายังคาดรายได้เติบโตเพียง 2% YoY เนื่องจากคาดว่าค่าเงินบาท และการกลับมามากขึ้นของโรงงาน OEM ในจีน ทำให้การบริหารต้นทุนของบริษัทดีขึ้น
- ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER66 เพียง 18.5 เท่า คงคำแนะนำซื้อ
SABINA ไม่หวือหวา แต่ยั่งยืน
คาดกำไรปกติ 4Q65 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY
คาดรายได้ 4Q65 ที่ 812 ลบ. (+5.0% Q00, +1.7% YoY) ได้แรงหนุนจากบริโภคในประเทศฟื้นตัวต่อเนี่อง และการส่งออกสินค้า OEM ไปยุโรปที่ชะลอไปใน 3Q65 เลื่อนมาส่งมอบใน 4Q65 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการใช้ Promotion ในการจำหน่ายสินค้าในช่วงปลายปี จึงคาด GPM ลดลงเล็กน้อยที่ 47.8% จาก 48.0% ใน 3Q65 และ 48.4% ใน 4Q64 คาดกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 103 ลบ. (+2.8% QoQ, +5.8% YoY) และคาดเงินปันผลงวด 2H65 ที่ 0.57 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 2.3%
ปี 2566 กำไรสุทธิทำระดับสูงสุดใหม่
เราคาดว่ารายได้ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วง 1Q66 จากยอดขายของนโยบาย ช้อปดีมีคืน และยังอยู่ในช่วง High season ของการใช้จ่าย ทั้งในไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน การเปิดประเทศของจีนมีประโยชน์ 2 ส่วนต่อ SABINA คือ 1) โรงงานรับจ้างผลิตที่เป็น Supplier ให้กับ SABINA กลับมาเปิดมากขึ้น ทําให้มีตัวเลือกโรงงานในการผลิตมากขึ้น รวมถึงได้ราคาที่ถูกลง 2) การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ทำให้รายได้ประชากรในประเทศดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และ CLMV ดีขึ้น นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าทําให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากจีนในรูปเงินบาทถูกลง ซึ่งมากกว่าการเสียประโยชน์จากการส่งออกไปยุโรป เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร นอกจาก คาดว่าภายใน 1H66 จะสามารถเจรจาปิดดีล M&A ในต่างประเทศได้อย่างน้อย 1 ดีล เรายังคาดรายได้แบบ Conservative ที่ 3,248 ลบ. เติบโตเพียง 2% YoY แต่คาด GPM เพิ่มขึ้นเป็น 50.2% จาก 48.4% ในปี 2565 และคาดกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 468 ลบ. (+12.2% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่
คงคำแนะนำ ซื้อ
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SABINA แม้ว่าจะเติบโตไม่สูง แต่ยังเติบโตได้แม้มีฐานสูง และมี Upside จากรายได้ คาดเติบโตเพียง 2% YoY และเป็นหุ้นยั่งยืน ยังสามารถทำกําไร และจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอแม้ในภาวะวิกฤติ คาดเงินปันผลปี 2566 ที่ 1.21 บาท/หุ้น ในผลตอบแทนต่อปีที่ 4.9% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2566 ต่ำเพียง 18.5 เท่า และคงราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท (DCF) มี Upside gain 20.5% คงคำแนะนำ ซื้อ