ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ปิดบวก 3 จุด (+0.18%) ปิดที่ 1,688 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท แรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มอสังหาฯ ช่วยหนุนตลาด
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,680 – 1,695 จุด แม้ Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องจะเป็นบวกต่อดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวลตลาดแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่งจะส่งผลให้ FED ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ( ยอดผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย ) รวมถึงแรงขายตามสัญญาณเทคนิคจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- MTC SAWAD KTC AEONTS THANI ASK อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง
- หุ้นที่คาดงบ 4Q22F เติบโต BGRIM GPSC AOT CENTEL ERW AAV BA CPALL CRC CBG PLANB SIRI ORI SNNP SPA AU SISB
- GPSC EA เก็งข่าวมาตรการอุดหนุนแบตเตอรี่เข้าบอร์ด EV วันที่ 23 ม.ค.
หุ้นแนะนำวันนี้
- AP (ปิด 11.40 ซื้อ/เป้า 14.30 บาท) ยอดเปิดตัวโครงการใหม่พุ่งทำสถิติสูงสุดใน 4Q22 ขณะที่ยอด Presale เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดมีกำไรสุทธิ 4Q22 ประมาณ 1.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 22%yoy
- TOP (ปิด 58 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 65 บาท) ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นค่าการกลั่นฟื้นตัวตามดีมานด์พลังงานที่สูงขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ และยังมีปัจจัยหนุนจากข่าว โรงกลั่น& ปิโตรฯ ในประเทศจีนระเบิด
บทวิเคราะห์วันนี้: BBL, KBANK, TU
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) KBANK BBL กำไรสุทธิต่ำคาดจากตั้งสำรองฯ สูง และ OPEX เพิ่มขึ้น: KBANK มีกำไรสุทธิ 3,191 ล้านบาท ลดลง 70%qoq และ 68%yoy จากการตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นเป็น 22,784 ล้านบาท (ปกติ 9,000 ล้านบาท) ส่วน BBL มีกำไรสุทธิ 7,569 ล้านบาทลดลง 1%qoq แต่เพิ่มขึ้น 20%yoy อย่างไรก็ดียังต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 4% จาก OPEX เพิ่มขึ้นตามผลของฤดูกาล
(-) ดาวโจนส์ยังลดลง แต่ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 252 จุด (-0.76%) ปิดที่ 33,045 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังจากผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานในสหรัฐยังลดลงส่วนภาวะตลาดน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 80.33ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตลาดยังคาดหวังจีนเปิดประเทศกระตุ้นดีมานด์
(+/-) สัปดาห์หน้าติดตามประชุม กนง. คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%: เราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.5% โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลง หลังจากที่เงินเฟ้อเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 5.89% จาก 5.55% ในเดือน พ.ย.
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) กบง.ตรึง LPG อีก 1 เดือน, ลดค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย.กลุ่มเปราะบาง
สหรัฐ
(-) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.8% หลังจากลดลง 1.0% ในเดือนพ.ย. โดยยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง รวมท้ังการปรับตัวลงของราคาน้ํามันเบนซิน ซึ่งกระทบต่อยอดขายของสถานีบริการน้ํามัน
ยุโรป
(+) คลาส น็อต ผู้ว่าการธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ และสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางยุโรปจะไม่หยุดเพียงแค่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมคร้ังต่อไป
เอเชีย
(-) ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนปรับตัวลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลจีน ประกาศยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อแพร่กระจายไปท่ัวประเทศ