KS Daily View 20.01.2023 > ตรุษจีน หุ้นทั่วโลก Risk off กลุ่มธนาคารไทยงบ 4Q22 ต่ำคาด SET คาดแกว่ง 1680-1691 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ JMT, CHAYO
สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน
ในประเทศ: SET Index ปิด 1688.48 จุด(+0.18%) แกว่งตัวออกข้างและแนวต้าน 1691 จุดยังไม่ผ่าน แม้ต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิติดต่อกันตั้งแต่ต้นปีทุกวัน แต่ 3 กลุ่ม ทั้งสถาบัน รายย่อย และ บัญชี บล. ขายในทางเดียวกัน โดยหุ้นที่ขึ้นหนุนดัชนีหลักๆคือ AWC +3.33%, EA +2.56%, CRC+1.1%ฯลฯ ส่วนหุ้นที่กดดัชนีคือ MAKRO -2.33%, BJC -1.4% ฯลฯ
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นทั่วโลกยังอยู่ในโหมด Risk off (โหมดที่นักลงทุนมองว่าเสี่ยงสูง ไม่แน่นอนสูง จะย้ายเงินไปสินทรัพย์อื่นที่เสี่ยงต่ำกว่า) โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐพักฐานลงต่อเป็นวันที่ 3 และลงมาบริเวณโซนแนวรับ โดยเมือคืนดัชนี Dow Jones -0.76%, S&P500 -0.76%, Nasdaq -0.96% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐบวกลบสลับกัน โดย Sector ที่ปรับลงหลักๆ คือกลุ่ม Industrials -2.1%, กลุ่ม Consumer Discretionary -1.7%, Financials -1.2%ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Outperform คือ Energy +1.1% (ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ Brent +1.4% ปิดที่ 86.6 ดอลลาร์/บาร์เรล มองบวกต่อหุ้นพลังงาน น้ำมัน โรงกลั่นในไทยวันนี้) โดยตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงตลาดให้น้ำหนักไปทาง การแสดงความเห็นของประธาน Fed หลายท่านตลอดสัปดาห์ และล่าสุด CEO ของธนาคาร JP Morgan สนับสนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย > 5%
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย: KS ประเมินแนวต้านสำคัญของ SET Index ยังอยู่ที่ 1691 / 1700 จุด คาดผ่านได้ยากเนื่องจากประเมิน Sector ที่จะดันดัชนี คาดหวังจะมาจากกลุ่มใหญ่ๆ อาทิ กลุ่มธนาคาร ล่าสุด TISCO รายงานกำไรในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และ BBL รายงานงบเมื่อคืน ออกมาต่ำคาด โดยตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และธนาคารพาณิชย์อื่นๆจะทยอยประกาศวันนี้ เรามองว่ากลุ่มธนาคารวันนี้จะได้รับ Sentiment เชิงลบ แต่กลุ่มทีได้ประโยชน์จากสำรองที่เพิ่ม คือกลุ่ม AMC ( BAM, CHAYO, JMT) โดยรวมทำให้เชื่อว่าจะยังไม่มีแรงหนุนจาก Sector ใหญ่ๆและเป็นการสับกลุ่มลงทุน ประกอบกับประเมินภาพใหญ่ประเด็นเรื่อง Fed คาดตลาดจะรอการประชุมรอบถัดไป คือต้นเดือน ก.พ.23 อย่างไรก็ตามมองว่าหาก SET ย่อลงมาแนวรับยังคงที่เดิมคือ 1666 จุด เป็นจุดทยอยสะสม
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
1.) ติดตามสภาคองเกรส เร่งขยายเพดานหนี้สหรัฐจากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ เมื่อคืนกระทรวงการคลังเผยได้ระงับการลงทุนครั้งใหม่ในกองทุนผู้เกษียณอายุ, กองทุนประกันสุขภาพของผู้เกษียณอายุของสำนักงานไปรษณีย์เริ่มตั้งแต่วันนี้- 5 มิ.ย. 23
2.) 23-27 ม.ค. ตลาดหุ้นในฝั่งเอเซียหยุดทำการหลายประเทศ โดยเฉพาะจีน, เกาหลีใต้, เวียดนาม เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ วันตรุษจีน ประเมินบวกต่อภาคการท่องเที่ยวไทย
3.) ติดตามพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ล่าสุด Janet Yellen เตรียมเดินทางไปเยือนจีนหารือประเด็นที่ขัดแย้งกันรวมถึงการค้า เทคโนโลยี และไต้หวันกับ Liu He นายกรัฐมนตรีของจีน หากมีพัฒนาการที่ดีเรามองบวกต่อ กลุ่มคลังสินค้า อาทิ JWD
4.) ติดตามการประชุม กนง. 25 ม.ค.คาดมีการส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25%) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วมากกว่า 13% จากปลายเดือน พ.ย. 2565 มองกลุ่มที่จะได้ sentiment บวกจากเรื่องนี้คือกลุ่ม Finance ชื่นชอบ THANI และโรงไฟฟ้า BGRIM, SSP ส่วนกลุ่มที่ได้ sentiment ลบคือ กลุ่มธนาคาร
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบเดิม 1680-1691 จุด หุ้นแนะนำ JMT, CHAYO
Top pick :
JMT (ราคาพื้นฐาน 73.0 บาท)
เราคาดว่ากำไร 4Q22 ของ JMT จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วง 600-700 ลบ. โดยได้รับแรงหนุนจาก
1) การเก็บเงินสดที่แข็งแกร่งขึ้น QoQ และ YoY ในไตรมาส 4/2565 จากผลกระทบตามฤดูกาล
2) ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดที่สูงขึ้น
3) ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง ในงวด 4Q22
4) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของ JK AMC เนื่องจากบริษัทจะเข้าซื้อหนี้เสีย (NPL)
โดย JMT เรามองว่ามี upside จากการร่วมทุนกับธนาคารพาณิชย์ และอุปทาน NPL ที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงินในปี 2023 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น
CHAYO (ราคาพื้นฐาน 8.9 บาท)
เราคาดว่ากำไรได้ถึงจุดต่ำสุดแล้วในงวด 3Q22 และจะดีขึ้นอย่างมากทั้ง QoQ และ YoY ในงวด 4Q22 โดยได้แรงหนุนจาก
1) กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ขนาดกลางที่ประมาณการไว้ที่ 16 ลบ. ในงวด 4Q22
2) การจัดเก็บเงินสดเพิ่มขึ้นจากพอร์ตหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ไม่มีหลักประกันเป็น 75 ลบ. จาก 72 ลบ.ในงวด 3Q22
3) ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่คาดทรงตัว QoQ หรือลดลงเล็กน้อยจากในงวด 3Q22 จากการเก็บจัดเงินสดที่ดีขึ้นจากพอร์ต NPL ที่ไม่มีหลักประกันซึ่งได้มาในในงวด 4Q22
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. คาด +0.2% MoM และ +4% YoY การกำหนดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ของจีน 1 ปี และ 5 ปี คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ ตัวเลข Gfk Consumer Confidence index ของอังกฤษเดือน ม.ค. คาด -40 จุด (ดีขึ้นจาก -42 จุด) ตัวเลข Retail Sales ของอังกฤษเดือน ธ.ค. คาด +0.4% MoM ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตของเยอรมันเดือน ธ.ค. คาด -1.2% MoM และ +20.8% YoY ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde และ Fed Waller และตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -2% MoM เป็น 4mn ยูนิต
