Our View? “กลัวที่ไหน?”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,670 / 1,665 และแนวต้านที่บริเวณ 1,680 / 1,690 มองตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แสดงความคิดเห็นว่า FED ปรับอัตราดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดขอบรอบนี้แล้ว ซึ่งจะเพียงพอต่อการสกัดอัตราเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง ขณะที่ CME FED Watch Tools บ่งชี้ว่าปัจจุบันตลาดคาดการณ์ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.พ. เพียง 0.25% ที่ความน่าจะเป็นกว่าราว 100.0% และจะขึ้นอีกครั้งในเดือน มี.ค. อีก 0.25% ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00% ยาวไปจนถึง 4Q′66 ของปีนี้ คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. เดือน มี.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 81.64 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.03 ดอลลาร์ หรือ +1.28% จากแรงหนุนของความคาดหวังการที่จีนเปิดประเทศจะกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันโลกฟื้นตัวขึ้น คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ เราคาดตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงระยะสั้นบ้าง หลังจากหุ้นในกลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ออกมาที่ระดับเพียง 4.04 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว -22.27% โดย -23.07% QoQ และ -3.70% YoY จากการตั้งสารองหนี้ที่มากกว่าที่ตลาดคาดอย่างมีนัยยะ  คาดจะกดดันทิศทางหุ้นไทยกลุ่มธนาคารลงมาถ่วงตลาดได้ รวมทั้งยังเป็นจิตวิทยาเชิงลบลดทอนประมาณการ EPS ในปี’66 ของตลาดหุ้นไทยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัวลงจากคาดผลกำไรอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดทิศทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องในปีนี้จะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง ขณะที่คาดการประชุม กนง. ใน วันที่ 25 ม.ค. นี้ เราคาดว่าที่ประชุมจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 1.50% คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารได้อีกครั้ง ขณะที่เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทย คาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 1 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 ล้านคนได้ในปี’66 เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จาก การที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB, TKN IIa: SCC

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “BAFS”

กลยุทธ์ เก็งกำไร แนวรับ 32.00 / 31.50 Target 35.50 / 37.50 Stop <30.75

- Advertisement -