KS Daily View 23.01.2023 > สัปดาห์นี้ SET ยังมีแนวต้าน 1,700 จุด รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ, ประชุม กนง. กลางสัปดาห์ SET คาดแกว่ง 1,666-1,680 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ WARRIX
สรุปตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์
ในประเทศ: SET Index ปิด 1677.25 จุด(-0.67%) โดยเห็นต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิครั้งแรก 2.87 พันล้านบาท โดยหุ้นที่ขึ้นหนุนดัชนีหลักๆคือ STARK +7.8%, BANPU +3.25%, BEM +1.1%ฯลฯ ส่วนหุ้นที่กดดัชนีคือ SCB -2.2%, BBL-1.9%, ADVANC-0.99% ฯลฯ
ต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมา Rebound ดัชนี Dow Jones 1%, S&P500 1.9%, Nasdaq 2.66% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐบวกทุกกลุม โดย Sector ที่ปรับขึ้นหลักๆ คือกลุ่ม Communication Services 3.96%, กลุ่ม IT 2.7%, Consumer Discretionary 2.4%ฯลฯ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ KS ประเมินแกว่งตัวออกข้าง และแนวต้านสำคัญของ SET Index ยังอยู่ที่ 1691 / 1700 จุด คาดผ่านได้ยากเนื่องจาก Sector ธนาคารซึ่งเป็นความหวังก่อนหน้าที่จะดัน SET Index ยังถูกกดดันหลังจากปลายสัปดาห์ที่แล้วเกือบทุกบริษัทรายงานงบต่ำคาด และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ยกเว้น TTB ขณะที่ Fund Flow เริ่มเห็นต่างชาติกลับมาขายสุทธิวันแรกเมื่อวันศุกร์ราว 2.8 พันล้านบาท จากก่อนหน้าต่างชาติที่ซื้อสุทธิติดต่อกันตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตาม มองว่าระยะกลางถึงยาว ตลาดหุ้นไทยยังเป็นกลุ่มประเทศที่น่าสนใจและเป็นเป้าหมายการซื้อของต่างชาติ เนื่องจาก
1.) ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน หนุน Upside คาด GDP Growth และ EPS Growth
2.) โอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้ายังต่ำกว่า 15% เทียบกับสหรัฐและยุโรปที่สูงกว่า 60% เราประเมินว่าหาก SET ย่อลงมาแนวรับ 1666 จุด ยังเป็นจุดทยอยสะสม
ธีมการลงทุนแนะนำสัปดาห์นี้
1.) กลุ่มการเงิน แนะนำกลุ่ม AMC คือ JMT, CHAYO กลุ่มจำนำทะเบียน SAWAD ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยในต่างประเทศและในประเทศผ่านจุด Peak เก็ง กนง. คงดอกเบี้ยสัปดาห์นี้
2.) กลุ่ม โรงไฟฟ้า BGRIM กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TOA
3.) กลุ่ม Mid-small cap ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ได้แก่ BE8 KLINIQ WARRIX STARK
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
1.) ติดตามการประชุม นวค. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินทิศทางของการเติบโตสินเชื่อ และ NPL หลังตลาดกลับมากังวลเรื่อง NPL ในอนาคตหลังธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีการตั้งสำรองเพิ่ม ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน แต่อาจมีปัจจัยลบจากการชะลอตัวของภาคส่งออก โดยธนาคารที่รายงานกำไร 4Q22 ออกมาดีคือ TTB, KTB, TISCO และ BBL ส่วนที่แนวโน้มดูน่ากังวลในด้าน asset quality ได้แก่ SCB และ KKP
2.) Thai Baht linked sector: ติดตามทิศทางค่าเงินบาท ซึ่งล่าสุดแข็งค่ากว่าภูมิภาคหลุดแนวต้านสำคัญที่ 33 บาทต่อ USD มาที่ 32.71 บาทต่อ USD บนจำนวนนักท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น และค่าเงิน USD ที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ขณะเดียวกันต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศได้แก่ S&P Global Manufacturing PMI Flash, ตัวเลข GDP 4Q22 ของสหรัฐฯ, และ Core PCE Price index เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ เพื่อวัดโอกาสเกิด Recession ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ในการขยายเพดานหนี้สาธารณะ (Debt Ceiling) ด้วย ซึ่งโดยรวมจะมีผลให้ Dollar Index อ่อนค่าต่อ โดยกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า คือ ผู้นำเข้ามาขายในประเทศ (TOA, SABINA, DOHOME, HMPRO, GLOBAL) และคนที่มีหนี้ USD เยอะๆ (BGRIM EGCO SSP) ส่วนคนที่ได้รับผลลบคือกลุ่มส่งออก
3.) Small cap sector: ติดตามการเข้าเทรดของหุ้น MASTER ซึ่งทำธุรกิจศูนย์ศัลยกรรมความงาม ซึ่งขาย IPO ที่ 46 บาท คิดเป็น P/E ปี 2023-24 ที่ 25x/21x บน 2023-24E EPS ที่ Bt1.80/Bt2.2 per share ทำให้เป็นตัวกดราคาหุ้น KLINIQ ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราคาดว่าหลังหุ้นเข้าเทรดในวันที่ 25 ม.ค. นี้หากราคาปรับตัวขึ้นจะช่วยดึงให้ราคาหุ้น KLINIQ ฟื้นตัวหลังราคาปรับตัวลงมาในจุดที่เร่ิมน่าสนใจที่ 30 +/- คิดเป็น P/E ปี 2023-24 ที่ 30x/20x ตามลำดับ บน 2023-24 EPS ที่ 1 บาท/1.50 บาท มองว่าบริษัทมีจุดแข็งคือ แบรนด์ เครื่องแท้ อุปกรณ์ไม่ปลอมเหมือนที่เป็นข่าว หมอพูดจาดี ฝีมือใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องจบบอร์ด นอกจากนี้เรามองว่าธุรกิจความงามยังโตได้ดีบนธีม Aging society การที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำกว่า 70%
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1666-1680 จุด หุ้นแนะนำ WARRIX
Top pick
WARRIX (ราคาพื้นฐาน 11.2 บาท) เราเริ่มต้นออกบทวิเคราะห์ WARRIX วันนี้ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และ TP 11.23 บาท ด้วย PER ปี 2567 ที่ 33.7 เท่า การเสนอขายหุ้นจะเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเราประเมินลิขสิทธิ์ทางการตลาด การกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ และการจัดหาคือกุญแจสำคัญ ปัจจัยขับเคลื่อนหลักคืออุปสงค์ที่สะสมไว้ ผลิตภัณฑ์/ช่องทางการค้าใหม่ และการประหยัดต้นทุน WARRIX ซื้อขายด้วย PER ปี 2566 ที่ 38 เท่า เทียบกับ CAGR 3 ปี (2565-2568) ของกำไรปกติที่ 36% หรือ PEG ที่ 1.1 เท่า ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับคู่แข่งกลุ่มพาณิชย์
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันจันทร์ ติดตามตัวเลข Consumer Confidence Flash ของยุโรป เดือน ม.ค. คาด -20 จุด ดีขึ้นจาก -22.2 จุด
- วันอังคาร ติดตามตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่นเดือน ม.ค. คาด 50.6 จุด (-1% MoM) ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ธ.ค. คาด -10.7% YoY และ -8% YoY ตามลำดับ คาดไทยขาดดุลการค้า -1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ -1.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตัวเลข GfK Consumer Confidence ของเยอรมันเดือน ก.พ. คาด -33 จุด (ดีขึ้นจาก -37.8 จุด) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมันเดือน ม.ค. คาด 47.8 จุด (+1.5% MoM) ตัวเลข S&P Global Services PMI Flash ของเยอรมัน เดือน ม.ค. คาด 49.6 จุด (+0.8% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยูโรโซนเดือน ม.ค. คาด 48.5 จุด (+1.5% MoM) ตัวเลข S&P Global Services PMI Flash ของยูโรโซน เดือน ม.ค. คาด 50.2 จุด (+0.8% MoM) ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 45 จุด (Flat MoM) ตัวเลข S&P Global Services PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 46.2 จุด (Flat DoD)
- วันพุธ ติดตามตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยเดือน ธ.ค. การประชุม กนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps. เป็น 1.50% ตัวเลข GDP ปี 2023-24E ของ กนง. ตัวเลข Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน ม.ค. คาด 90.2 จุด (+1.8% MoM) และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Durable Goods Orders ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +2.6% MoM ตัวเลข GDP 4Q22 ของสหรัฐฯ คาด +2.6% QoQ ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +205K (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 190K) และตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 0.614mn (-2% MoM)
- วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข PCE Price index เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ คาด +0.1% MoM และ +5.1% YoY ตัวเลข Core PCE Price index เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ คาด +0.3% MoM และ +4.4% YoY ตัวเลข US Personal Income เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ คาด +0.2% MoM และตัวเลข US Personal Spending เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ คาด -0.1% MoM ตัวเลข Pending Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -1% MoM และตัวเลข U Michigan Consumer Sentiment คาด 64.6 จุด (+8.2% MoM)