บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +25.0%

Close Jan 20, 2023 Price (THB) 30.00

12M Target (THB) 37.40

Previous Target (THB) 37.40

What’s new?

  • คาด 4Q65 ทําไรเติบโต 16% YoY ผลบวกจากการเปิดประเทศ ทําให้คนไข้ต่างชาติกลับมาใกล้เคียงปกติ
  • ปี 2566 ยังเติบโตต่อเนื่อง Outperform กลุ่มรพ.ซึ่งจะรับผลบวกเต็มปีจากการฟื้นตัวของคนไข้ต่างชาติ อัตรากำไรดีขึ้นจากทั้งรายได้ และธุรกิจที่มีตรากำไรสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
  • บริษัทให้เป้าหมายรายได้ 3 ปี ข้างหน้า เติบโต CAGR ที่ 6-8% ต่อปี

Our view

  • เรามองว่าผลประกอบการของ BDMS จะเติบโตดี Outperform กลุ่มต่อเนื่องในปี 2566 ผลบวกจากรายได้ ลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นตัว ต่างจากหลาย รพ.ที่คาดกำไรปรับลดลงจากฐานที่สูง
  • เราคงมูลค่าพื้นฐานในปี 2566 ที่ 37.40 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

BANGKOK DUSIT MEDICAL SERVICE คาด 4Q65 โตดี YoY..ปี 66 ยังสดใส รับผลบวกเปิดประเทศ

คาด 4Q65 กำไรเติบโตต่อเนื่อง 16%YoY

เราคาดกำไร 4Q65 ที่ 3,062 ล้านบาท -10%QoQ, +16%YoY กำไรลดลง QoQ เนื่องจากผลของปัจจัยฤดูกาล ขณะที่เติบโตเด่น YoY หลักๆ ยังมาจากการฟื้นตัวของคนไข้ปกติที่ไม่เกี่ยวกับ COVID-19 ผลบวกจากการเปิด ประเทศ ทำให้คนไข้ต่างชาติกลับมาใกล้เคียงระดับปกติราว 90% เทียบกับช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 หลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้า CLMV ตะวันออกกลางและยุโรป โดยกลุ่มลูกค้า Fly in ขึ้นมาอยู่ที่ราว 60% เพิ่มจากต้นปีที่ราว 40% ของรายได้ ส่งผลให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้น 6%YoY เป็น 22,892 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรอ่อนตัวลง โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 4Q64 ที่ 37.4% เหลือ 35.1% เนื่องจากผลของ Product mix รายได้เกี่ยวกับการให้บริการและขายวัคซีน COVID-19 ที่หายไป ภาพรวมปี 2565 เราประมาณการรายได้ที่ 90,670 ล้านบาท เติบโต 22% YoY และประมาณการกำไรปกติที่ 12,555 ล้านบาท (+62%YoY)

แนวโน้มปี 2566 คาดยังเติบโต Outperform กลุ่ม

เรามีมุมมองเป็นบวกแนวโน้มปี 2566 คาดยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง โดยประมาณกำไรปกติที่ 13,999 +12%YoY ซึ่งเรายังมองว่าจะยังเป็นการเติบโตจากกลุ่มคนไข้ปกติ ซึ่งมาจาก Pent up demand และจะรับผลบวกเต็มปีจากการฟื้นตัวของคนไข้ต่างชาติ หลังจากที่มีการเปิดประเทศ ซึ่งคาดว่าสัดส่วนคนไข้ต่างชาติจะปรับเพิ่มจากเฉลี่ย 23% ในปี 2565 เป็น 33% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่บริษัทยังมีแผนในการขยายธุรกิจใหม่เสริมรายได้ โดยล่าสุดบริษัทมีการจับมือ Minor Hotels ผ่านบริษัทในเครือคือ BDMS Wellness Clinic ซึ่งมีแผนจะเปิดคลินิกในกลุ่มโรงแรม Minor Hotels ซึ่งมีโรงแรมเครือทั้งสิ้นมากกว่า 35 แห่ง โดยคาดว่าจะช่วยขยายฐานรายได้จากต่างชาติมากขึ้น ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไร คาดดีขึ้นจากผลของรายได้และการรักษาโรคซับซ้อน และการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งมีอัตรากำไรสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

เป้ารายได้ 3 ปีข้างหน้า เติบโต 6-8% จากทั้ง Organic growth และขยายธุรกิจ

บริษัทให้เป้าหมายรายได้ 3 ปีข้างหน้า (ปี 2566-2568) หน้าเติบโต CAGR ที่ 6-8% ต่อปี (ทาง Yuanta Research ใช้สมมติฐานที่ 6.5%) เป็นการเติบโตจาก 1) Organic Growth การเติบโตทั้งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และผลของ insanity รายได้สูงขึ้นจากการรักษาโรคที่ซับซ้อน) 2) กลยุทธทางธุรกิจมีแผนเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยขยายฐานลูกค้า Wellness & Residence สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จากโครงการ BDMS Silver Wellness & Residence รวมถึงเริ่มส่งเสริมในส่วนของ health technology รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 3) คาดจำนวนเตียงจดทะเบียนจะเพิ่มจากปี 2565 ที่ราว 8,500 เตียง เป็น 9,000 เตียง จากแผนในการเปิด รพ.ใหม่ ในปี 2566 รพ.พญาไทย ศรีราชา จำนวน 100 เตียง เพิ่มเตียง รพ. พญาไทย 1 อีก 160 เตียง ปี 2567 สมิติเวท อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับเด็ก 102 เตียง และปี 2568 ขยายอีกราว 200 เตียง

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 ที่คาดยังเติบโต Outperform กลุ่ม รพ.เนื่องจากรับผลบวกโดยตรงจากการเปิดประเทศ สวนทางผลประกอบการกลุ่ม รพ.ที่คาดกำไรจะปรับลดลงจากฐานที่สูง เราคงมูลค่าพื้นฐานในปี 2566 ที่ 37.40 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

- Advertisement -