รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี Sideways

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนีรีบาวน์ นำรีบาวน์โดย DELTA KCE กลุ่มธนาคาร BBL KTB BAY และหุ้นบวกแรง TEAM IRCP THCOM KWI SKY BBIK ส่วนหุ้นกดดันตลาด KBANK SCB KKP GULF CBG HMPRO OR
  • วันนี้คาดดัชนี Sideways หลังจบช่วงย่อยงบฯ กลุ่มธนาคาร และตลาดเอนเอียงไปทางไม่กังวลว่าจะส่งผลกระทบบานปลายไป (เริ่มและจบที่แบงค์) และในช่วงถัดจากนี้ จะเข้าสู่การทำ Earnings preview ของ Real Sector ทำให้เรายังคงประเมินสัปดาห์นี้จะเห็นตลาดเล่นหุ้นรายกลุ่ม-ตัว และกลยุทธ์ยังเกาะกับกระแสการลงทุนหุ้นกลาง-เล็กตามที่เราแนะนำให้โฟกัสไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีประเด็นบวกหนุน ตลาดพร้อมเล่นขึ้น เช่น กลุ่มแนวโน้มผลประกอบการออกมาดี/ไม่แย่ กลุ่มมี Story ที่เป็น Catalysts บวก หุ้นกลุ่มบริการรับจีนเปิดประเทศถัดจากโรงแรม-สายการบิน

What to watch

  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประกาศวันนี้ US PMI 46 ลดลงเล็กน้อยจาก 46.2 เดือนก่อน (และต่ำกว่า 50) และ EU PMI ตลาดคาดที่ 48.5 ดีกว่าเดือนก่อนที่ 47.8 (แต่ยังต่ำกว่า 50) ส่วน PMI ภาคบริการของ US จะขยับขึ้นมาเล็กน้อย 45 (เดือนก่อน 44.7) และ EU ที่ 50.2 (เดือนก่อน 49.8) // ตัวเลขมหภาคสำคัญอื่นๆ ที่ติดตาม เช่น GDP เบื้องต้น และตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ
  • วันพุธ คาด ธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.5%
  • งบที่จะประกาศสัปดาห์นี้ อังคาร SCGP พุธ SCC
  • จีนเปิดทัวร์เร็วเกินคาด อนุมัติจัดกรุ๊ปทัวร์เที่ยว ตปท.ได้เริ่ม 6 กพ.นี้เป็นต้นไป // ล่าสุด CAAT เผย 17 สายการบินสัญชาติจีนขอสล็อตเวลาบินเข้าไทยพรึ่บ อนุมัติแล้วกว่า 1 พันเที่ยวบิน ยังทยอยอนุมัติเพิ่มอีกราว 15-20 เที่ยวบินต่อวัน (ที่มา: ทันหุ้น)

หุ้นแนะนำวันนี้

ASAP  SPA  หุ้นรับไม้ต่อสำหรับธีมหุ้นกลุ่มบริการเชื่อมโยง นทท.จีนเข้าไทย ได้อานิสงค์ตาม Sentiment บวก

Global Investing Brief : หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ บวกนำ ลุ้นงบ Microsoft คืนนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักบวกเด่นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยดัชนี DJIA +0.8%, S&P +1.2%, Nasdaq +2.2% นำโดย Apple (AAPL) +2.3%, Tesla (TSLA) +7.7%, Alphabet (GOOGL) +1.8% ก่อนการเผยงบเดือน ต.ค.-ธ.ค. 65 (F2Q66) ของ Microsoft (MSFT) หลังตลาดปิดคืนนี้ โดยเรามองว่าน่าสนใจในการลงทุนก่อนเผยงบ หลังมองว่าตลาดได้รับรู้แนวโน้มการชะลอตัวของธุรกิจคลาวด์ไปพอสมควรแล้ว และมองว่าการปลดพนักงานกว่า 10,000 คน รวมถึงผลกระทบค่าเงินที่เริ่มทุเลาลงจะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรในไตรมาสถัดไป
  • Amazon Web Services (AWS) ธุรกิจให้บริการคลาวด์ของ Amazon (AMZN) มีแผนลงทุนราว $35bn เพื่อขยายศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ ภายในปี 73 ซึ่งเรามองว่าแผนการลงทุนดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของธุรกิจคลาวด์ที่มีสัดส่วนรายได้ราว 16% รวมทั้งเสริมแกร่งความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจคลาวด์ของ Amazon ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 32% ในปัจจุบัน ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้ในปี 66 จะโต 10%YoY พร้อมให้ TP ที่ $133.71

ตลาดหุ้นฮ่องกง 

  • ตลาดหุ้นฮ่องกงหยุดทำการเมื่อวานนี้ ถึงวันพุธที่ 25 ม.ค. 66 เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
  • XPeng (9868) ที่มีสัดส่วนราว 0.5% ในดัชนี Hang Seng TECH ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิง DR CNTECH01 ประกาศลดราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น P7 P5 และ G3 ราว 10-13% โดยเรามองว่าประเด็นนี้จะกดดันหุ้นในระยะสั้น เนื่องจากสะท้อนความต้องการซื้อรถที่จะชะลอในปีนี้ รวมถึงการเกิดสงครามราคาของตลาดรถไฟฟ้าในจีน ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ากำไรในปี 66 ยังโตเด่น 70%YoY หนุนจากยอดขายรถ SUV รุ่น G9 ที่เริ่มส่งมอบเมื่อเดือน ก.ย. 65

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • ตลาดหุ้นเวียดนามหยุดทำการเมื่อวานนี้ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 ม.ค. 66 เนื่องในเทศกาลตรุษญวน
  • NLG หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัดส่วนราว 1% ในดัชนี VN Diamond ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิง DR FUEVFVND01 เผยผลการเนินงานในช่วง 4Q65 โดยรายได้หดตัว 63%YoY กระทบจากการส่งมอบที่อยู่อาศัยในโครงการ Can Tho ล่าช้ากว่ากำหนด อย่างไรก็ดี เรามองว่ารายได้ในปี 66 มีแนวโน้มฟื้นเด่นหนุนจากการเริ่มส่งมอบที่อยู่อาศัยในโครงการ Mizuki และ Southgate ตั้งแต่ช่วงปลายปี 65 นอกจากนี้ เรามองว่ามูลค่าน่าสนใจ หลัง Forward P/B ปี 66 อยู่ที่ 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 1.7 เท่า ราว 1 S.D. ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ VND34,900

Highlight

  • Reuters รายงานว่า Spotify (SPOT) ผู้ให้บริการสตรีมเพลงกำลังวางแผนปลดพนักงานในสัปดาห์นี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งผลต่อการเติบโตของบริษัท โดยปัจจุบัน บริษัทยังไม่ได้เผยจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ คาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้ในปี 66 ยังมีแนวโน้มโตเด่นที่ 15%YoY หนุนจากจำนวนสมาชิกแบบพรีเมียมโต 11%YoY แตะ 223 ล้านราย
- Advertisement -