คาดตัวเลขส่งออก ธ.ค. ไทยหดตัวต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,684.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.79 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 52,483.12 ล้านบาท มีแรงซื้อหุ้นแบงก์บางตัว อย่าง BBL และ KTB ซึ่งนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางของผลการดำเนินงานใน ระยะต่อจากนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตัว รวมถึงหุ้น DELTA กลับมาดีดตัวขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้… ขานรับปัจจัยบวกจาก Dollar index ปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 100 จุด หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง กอรปกับการคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดข้อมูลจาก Fedwatch Tool ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. หลัง CPI และ PPI ของสหรัฐบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ขณะที่ Semiconductor Index ปรับตัวขึ้นกว่า 5% หนุนกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขส่งออก ธ.ค. ตลาดคาดหดตัว 11.50%YOY ชะลอตัวต่อเนื่องหลังหดตัว 6.00% ในพ.ย. หาก ออกมาตามคาดอาจส่งผลต่อการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ ที่เราคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% แต่จะไม่เป็นมติที่เอกฉันท์ ซึ่งต้องติดตามมุมมองของ กนง. ต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเราคาดว่าจะเข้าใกล้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสชะลอการเร่งตัวขึ้น จากภาพการส่งออกที่คาดว่าจะชะลอตัวลงแรง ในเดือนธ.ค. ส่วนปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทําการ (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้) อาจเห็นวอลุ่มซื้อขาย นลท. ต่างชาติเบาบาง

สัปดาห์นี้ติดตาม

1) การประชุม กนง. 25 ม.ค.

2) GDP 4Q65 ของสหรัฐ คาดขยายตัว 2.8%YoY ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนที่ +3.2%YoY 26 ม.ค.

3) Core PCE ธ.ค. สหรัฐฯ ตลาดคาดเพิ่มขึ้นเป็น 0.3%MoM 27 ม.ค.

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway up แนะนํา Trading ในกรอบ 1672-1694 โดย Selective buy

    • กลุ่ม China reopening AOT AAV AMATA BAFS CPALL SNNP SPA EKH ANAN SISB
    • กลุ่ม ETRON DELTA KCE HANA SVI CCET SMT

Sector rotation ประเมิน Fund flow ไหลออกจากกลุ่ม พลังงาน / ส่งออก มาเข้ากลุ่ม ETRON เช่น DELTA KCE HANA

เคาะไป คุยไป KBANK

  • Earning result 4Q65 i) NII ที่ 3.6 หมื่นลบ. (+925% QoQ, +17.4%YoY) จาก Yield on loan ที่สูงขึ้น ภายใต้ Cof ที่บริหารจัดการได้ดี ส่งผลให้ NIM ขยับขึ้น 3.33% (+12 bpsYoY) ขณะที่สินเชื่อขยายตัวเพียง 3.03% ต่ำกว่าเป้า 6-8% ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมหดตัวลง 4.3%YOY ตามธุรกิจกองทุน และโบรคเกอร์ ส่วนรายได้ประกันภัยขาดทุนลดลง แต่ทั้งนี้ได้ส่วนของกำไร FVTPL มาหนุนจึงทําให้ Non-Nll ขยายตัวกว่า 53.3%QoQ ii) ผู้บริหารกังวลภาพแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังอ่อนแอ โดยในงวด 4Q65 ได้ขาย NPLs ไปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นพอร์ท Micro SME และ Retail และเข้า JK AMC ที่ JV กับ JMT) และ Write-off 7.9 พันล้านบาท ทำให้ NPLs ratio สิ้นงวดลดลงหลือเพียง 3.19% (หากรวมรายการข้างต้น ควรจะอยู่ที่ระดับ 3.7%) โดยปีนี้จะให้ความสำคัญกับการจัดการ NPLs เป็นพิเศษ iii) กำไรสุทธิ 4Q65 เท่ากับ 3.2 พันลบ. (-69.8%QoQ, -67.7%YoY) ขณะที่ทั้งปีเท่ากับ 3.57 หมื่นลบ. (-6.0% YoY)
  • เบื้องต้นยังคงแนะ “ซื้อ” KBANK ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ราคาเป้าหมายสินปี 66 ที่ 188.75 บาท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างทบทวนประมาณการภายหลัง Analyst meeting วันที่ 27 ม.ค. นี้ เราประเมินว่า credit cost จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงราว 180-200 bps ตามมุมมองแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังไม่ดีนัก

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้น คาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และโบอิ้ง

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นที่ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงได้นั้น ได้บดบังการแสดงความเห็นที่สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมัน WTI พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในระหว่างวัน

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวกขานรับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

- Advertisement -