บล.บัวหลวง: 

CP All (CPALL TB /CPALL.BK)

CPALL – การฟื้นตัวของลูกค้า 7-11 จะหนุนให้ตัวเลขในไตรมาส 4/65 แข็งแกร่ง

ปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรในไตรมาส 4/65 และปี 2566 คือ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และเราคาดการณ์การขยายตัวของกำไรจะต่อเนื่องในปี 2567-68 จากการที่ CPALL น่าจะเห็นการใช้จ่ายที่มากขึ้นของชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจำนวนมาก ทั้งนี้ หุ้นยังคงชื้อขายบนระดับ PER ที่ต่ำกว่า MAKRO ยังแนะนำ ซื้อ!

CPALL จะรายงานการฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/65

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 4,121 ล้านบาท เติบโต 47% YoY และ 8% QoQ อิงจากสมมุติฐานการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิมในไตรมาส 4/65 ที่ 12% เราคาดรายได้รวมที่ 218,505 ล้านบาท เติบโต 22% YoY และ 5% QoQ หากไม่รวมผลการดำเนินงานของ makro และ lotus เราคาดธุรกิจ 7-11 อย่างเดียวจะรายงานการเติบโตของทั้งรายได้และกำไร YoY และ QoQ หนุนจากการฟื้นตัวของลูกค้า 7-11 และปัจจัยทางฤดูกาล เราประมาณการจํานวนลูกค้าของ 7-11 เฉลี่ยที่ยังมากกว่า 900 ราย/สาขา/วัน (เทียบกับ 928 ราย ในไตรมาส 3/65 และ 822 ในไตรมาส 4/64) หนุนมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นอย่างมาก เราคาดการณ์การใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 82 บาท (ลดลง 2% YoY ทรงตัว QoQ) รวมประมาณการทําไรไตรมาส 4/65 ของ CPALL เข้ากับ ตัวเลข 9 เดือนแรกของปี 2565 ประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ของเราอยู่ที่ 14,495 ล้านบาท เติบโต 55% YoY (ดูรูปที่ 1-2)

ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของสินค้าที่ขายดีจะดันอัตรากำไรขั้นต้น

เราคาดราคาสินค้าที่ปรับตัวขึ้น (ในปี 2565) และการเปลี่ยนแปลงของยอดขายที่ไปที่สินค้าที่มีอัตรากำาไรมากขึ้น เช่น ของใช้ส่วนตัว (หมวดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ) ช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของ 7-11 ในไตรมาส 4/65 และปี 2566 แม้ว่าเราคาดจะเห็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูง จากราคาพลังงานที่สูง การแบ่งกำไรกับสาขา และต้นทุนด้านพนักงาน (โดยเฉพาะในไตรมาส 4/65 ที่ต้องจ่ายโบนัส) โดยอัตราค่าไรขั้นต้น และยอดขายที่สูงขึ้นจะช่วยกลบผลกระทบดังกล่าว ในงบรวมเราคาดอัตรากําไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65 ที่ 21.9% และ EBIT มาร์จิ้นที่ 5.2% ขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของ 7-11 และ MAKRO จะหนุนกําไรปี 2566

สําหรับปี 2566 เราคาดรายได้รวมที่ 885,991 ล้านบาท เติบโต 7% YoY และกําไรหลักที่ 19,234 ล้านบาท เติบโต 32% YoY ถึงแม้ว่าต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นจะกดดันความสามารถในการทำกำไร แต่เราเชื่อว่าการเติบโตของ ยอดขายต่อสาขาเดิม (เราคาดยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ปี 2566 ที่ 8%) และอัตรากําไรขั้นต้นที่ขยายตัวขึ้นจะกลบผลกระทบของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของ Lotus’s จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น (ทั้งยอดขายและพื้นที่เช่า) ในปีนี้และจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ในเดือน มิ.ย. เราคาดว่า Lotus’s จะกลายเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตใหม่ของ CPALL ในช่วง ปี 2566

สัดส่วนผลตอบแทน/ความเสี่ยงที่ยังคงน่าสนใจ

แม้ว่าตลาดจะรับรู้การฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งไปแล้ว (ราคาหุ้น CPALL ปรับตัวขึ้น 16% ภายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ SET ที่ขึ้นแค่ 5%) เรายังคงชอบบริษัทในด้านความสามารถในการครองตลาดและโอกาสในการเติบโตในอนาคต ทั้งน้ีหากมองไปในปี 2567 (เมื่อกำไรกลับมาเป็นปกติเทียบกับช่วงปี 2562) ราคาหุ้นถือว่าซื้อขายบน PER ระดับที่ถูกกว่าอัตราส่วนในปี 2562 อย่างมีนัย (และต่ำกว่าบริษัทย่อยอย่าง MAKRO)

- Advertisement -