บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +25.0%
Close Jan 24, 2023 Price (THB) 24.00
12M Target (THB) 30.00
Previous Target (THB) 31.50
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 4Q65 อยู่ที่ 4.47 พันลบ. ชะลอ 12.9% QoQ ตามแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลง แต่กำไรคาดพลิกจากขาดทุนปกติ 4.03 พันลบ. ใน 4Q64
- แนวโน้มกำไร 1Q66 เบื้องต้นคาดเติบโต YoY แม้ราคาขายเฉลี่ยจะชอบลง แต่ชดเชยได้จากปริมาณขายที่คาดสูงขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการเปิดประเทศของจีน
Our view
- เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CPF ในปี 2566 ที่คาดจะเติบโต YoY อย่างไรก็ตาม เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2565-2566 ลง 10% และ 14% ตามลำดับ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังต่อแนวโน้มราคาปศุสัตว์ และสะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
- ส่งผลให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ถูกปรับลดลง เป็น 30.00 บาท มี Uplige plain 25.0% คงคำแนะนำ ซื้อ และหากปันผลจ่ายงวดปี 2565 ที่ 0.40 บาท คิดเป็น Div. Yield 1.7%
CHAROEN POKPHAND FOODS 4Q65 กำไรฟื้นเด่น YoY … ปี 2566 แนวโน้มสดใส
4Q65 ชะลอลง QoQ ตามทิศทางราคาปศุสัตว์ แต่พลิกจากขาดทุนปกติ YoY
เราคาดกำไรปกติใน 4Q65 อยู่ที่ 4.47 พันลบ. ชะลอตัว 12.9% QoQ และพลิกจากขาดทุนปกติ 4.03 พันลบ. 4Q64 โดยการชะลอลง QoQ เป็นผลจากราคาปศุสัตว์ในตลาดหลักอย่างไทยและเวียดนามที่ชะลอตัวจากปริมาณหมูและไก่ที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น แม้เราประเมินว่าปริมาณชายจะเติบโตตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศก็ตาม โดยเราคาดราคาเฉลี่ยของหมูและไก่หน้าฟาร์มของไทยในที่ 4Q65 ที่ 101.3 บาท/กก. (-7.7% QoQ, +27.9% YoY) และ 42.6 บาท/กก. (-10.1%QoQ, +24,6% YoY) ตามลำดับ ส่วนราคาหมูเวียดนามคาดเฉลี่ยที่ 53,000 ดอง (-15.6%QoQ, +26.8% YoY) ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลืองยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เราคาด GPM ที่ 14.5% ลดลงจาก 15.0% ใน 3Q65 ประกอบกับราคาหมูจีนที่อ่อนตัวลงทั้ง QoQ เช่นกัน จากปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น แต่จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL มากขึ้น ทำให้เราคาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 2,200 ลบ. ทรงตัว QoQ
แนวโน้ม 1Q66 เติบโต YoY … ทั้งปี 2566 คาดยังเห็นการเติบโต
แนวโน้มกำไรปกติ 1Q66 เบื้องต้นคาดชะลอ QoQ ตามแนวโน้มราคาหมูไก่ทั้งในประเทศ, เวียดนาม และจีน ที่ชะลอตัวต่อ แต่คาดจะชดเชยบางส่วนจากปริมาณขายที่สูงขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์จากอุปสงค์อาหารที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจทำให้คาดว่ากำไรจะเติบโต YoY
เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรปี 2566 ที่คาดจะเติบโตได้ต่อเนื่อง YoY แม้แนวโน้มราคาขายเฉลี่ยของบริษัทคาดจะปรับตัวลง และแนวโน้มต้นทุนการเลี้ยงจะยังทรงตัวระดับสูง แต่ประเมินว่าจะชดเชยได้ด้วยปริมาณขายที่สูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับแผนการควบคุมต้นทุน, เน้นจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และเน้นช่องทางจัดหน่ายที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากขึ้น ซึ่งคาดจะช่วยชดเชยการชะลอลงของ GPM ได้บางส่วน นอกจากนี้เราคาดส่วนแบ่งกำไรจจากธุรกิจปศุสัตว์ในจีน (CTI) จะฟื้นตัวได้ดีมากขึ้นจากราคาหมูที่ตกต่ำในช่วง 1H65 และรับรู้ผลของการเปิดประเทศของจีนได้เต็มปีหนุนผลประกอบการ
ปรับประมาณการปี 2565-2566 ลง เพื่อเพิ่มระมัดระวังต่อแนวโน้มราคาปศุสัตว์
เราปรับประมารการกำไรปี 2565-2566 ลง 10% และ 14% เป็น 1.31 หมื่นลบ. (+652.5% YoY) และ 1.43 หมื่นลบ. (+9.5% YoY) เพื่อเพิ่มความระมัดระวังต่อแนวโน้มราคาปศุสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัว YoY และสะท้อนต้นทุนการผลิต อาทิ ค่าไฟฟ้า และแรงงานที่สูงขึ้น
ปรับราคาเหมาะสมแต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ผลของการปรับประมาณการลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ใหม่ที่ 30.00 บาท (อิงวิธี SOTP) มี Upside gain 25.0% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคาดเงินปันผลจ่ายงวดปี 2565 ที่ 0.40 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield 1.7%