Daily Focus: Selective and Earnings Play

2023SET Target: 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways ตามคาด และกรอบค่อนข้างแคบ โดยดัชนีปิดลบเล็กน้อย 0.83 จุด ณ สิ้นวัน ตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ส่วนกนง.ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.5 พันลบ.และ 670 ลบ. ตามลำดับ (สถานะใน SET50 Index Futures เบาบางไม่มีนัยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ต่อเนื่องในกรอบ 1,675- 1,690 จุด ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน โดยรอดูตัวเลข GDP 4Q22 ของสหรัฐฯ คืนนี้ ตลาดคาด +2.6% q-q ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +3.2% q-q และเงินเฟ้อ PCE เดือน ธ.ค. วันศุกร์ส่วนปัจจัยในประเทศนอกเหนือจากกนง.ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.50% ตามคาดวานนี้ ยังคงต้องติดตามการประกาศกำไรบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector อย่าง ต่อเนื่อง ล่าสุด SCC ประกาศกำไรออกมาแย่กว่าคาด อาจเป็นปัจจัยกดดัน Sentiment ระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวม 4Q22 คาดว่าฟื้นตัวได้ q-q นำโดยกลุ่มพลังงาน รวมถึง Consumption และ Reopening Play ที่คาดเห็นการฟื้นตัวดีตามการเปิดประเทศ จึงมองจังหวะพักตัวเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22 แข็งแรง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้น 4Q22 แข็งแกร่ง // ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : BA

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท
  • คาดผลการดำเนินงาน 4Q22 พลิกมีกำไรปกติ 10 ลบ.และกำไรสุทธิ 310 ลบ. หนุนจากการ Reopening ทำให้ปริมาณผู้โดยสารและค่าตั๋วเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนหลังบาทแข็งค่า
  • เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 จะมีผลขาดทุน 1.95 พันลบ. ขณะที่ปี 2023 คาดพลิกมีกำไรแข็งแรง 918 ลบ. หนุนจากธุรกิจสายการบินที่พลิกมีกำไร รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ทั้งบริการ Ground Support, Catering, BAREIT และเงินปันผลจาก BDMS และ BAFS
  • แนวรับ 13.50//13 บาท แนวต้าน 14.30//14.70 บาท (กรรมการอิสระ/ ประธานกรรมการตรวจสอบ/ ประธานคณะกรรมการสรรหาค่าตอบแทน และบรรษัทภิบาล ของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการ ของ BA)

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$721 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$752 ล้าน จากการกลับมาเปิดทำการวันแรกหลังหยุดเทศกาลตรุษจีน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน แต่ค่อนไปในทิศทางไหลออกบางๆประเทศละ US$15-20 ล้าน สำหรับอินโดนีเซียและไทย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสานรอติดตามตัวเลข GDP 4Q22 สหรัฐฯคืนนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดเป็น 1.50% ด้วยมติเอกฉันท์ ทยอยกลับสู่ระดับใกล้เคียงช่วงก่อน COVID-19 ที่ 1.50-1.75% ธปท.มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวหลังจีนเปิดประเทศ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ แรงกดดันด้านอุปสงค์ที่อาจเพิ่มขึ้น อาจทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูงอีกระยะ เป็นครั้งแรกที่กนง.พูดถึง Demand Pull Inflation จากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้น เราจึงยังคงคาด กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องสู่ระดับ 2% กลุ่มธนาคารคาดยังได้อานิสงส์บวกจากดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเฉพาะธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อลอยตัว และภาคธุรกิจสูง รวมถึงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะมีความเสี่ยงต่ำกว่ากลุ่มที่มีสัดส่วนมากกว่า เรายังคงชอบ BBL และ KTB มากที่สุดในกลุ่ม SME และรายย่อย

(-) SCC กำไร 4Q22 น่าผิดหวังและต่ำกว่าคาด มีกำไรเพียง 157 ลบ. -94% q-q, 98% y-y ปัจจัยกดดันหลัก คือ ธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังย่ำแย่ ทั้งรายได้และ Spread รวมถึง SCGP ที่รายงานกำไรออกมาต่ำกว่าคาดในช่วงก่อนหน้า จากทั้งรายได้และ Margin ที่กดดัน จบปี 2022 มีกำไรสุทธิ 2.1 หมื่นลบ. -55% y-y ปัจจุบันตลาดคาดกำไรสุทธิปี 2023 เฉลี่ยราว 3.1 หมื่นลบ. ฟื้นตัวราว +50% y-y ซึ่งต้องติดตามว่าจะเห็นการปรับประมาณการลงหรือไม่ ขณะที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 360.38 บาท

(+) BAFS คาดผลการดำเนินงาน 4Q22 ยังขาดทุนเล็กน้อย 31 ลบ.ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แม้ปริมาณการเติมน้ำมันจะดีขึ้น แต่ถูกกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มหลังกลับมาจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์พนักงานสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะใน 1Q23 เป็นต้นไปตามการเปิดประเทศ และจำนวนเที่ยวบินที่ทยอยเพิ่มขึ้น ส่งให้ทั้งรายได้และ Margin เติบโต รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เราปรับประมาณการปี 2022 ลงเป็นขาดทุน 271 ลบ. และปรับกำไรปี 2023 ขึ้นเป็น 409 ลบ. ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 37 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(0) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 9.88 จุด หรือ +0.03% ปิดที่ 33,743.84 จุด หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงไมโครซอฟท์ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มซอฟต์แวร์ของสหรัฐต่ำกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจของกลุ่มเทคโนโลยี

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก จากการคาดการณ์ว่า FED จะชอลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 32.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 80.15 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 80.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.42%

(+) ราคาทองค่า COMEX เพิ่มขึ้น 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,942.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,943.0 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.02%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 919.37 / +2.03

- Advertisement -