Our View? “ยังเหมือนเดิม”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,678 / 1,670 และแนวต้านที่บริเวณ 1,690 / 1,695 คาดตลาดในแต่ละประเทศยังคงให้ความสนใจหลักไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดจดทะเบียนฯ ของตนเอง รวมทั้งวันนี้คาดตลาดจะรอดูการเปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP 4Q’65 เบื้องต้นของสหรัฐคาดจะออกมาที่ระดับ 2.6% QoQ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า และรอดูตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ธ.ค. ในวันที่ 27 ม.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดจะออกมาที่ระดับ 5.00% YoY และ 0.0% MoM สะท้อนทิศทางอัตราเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยหนุนให้ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงระดับ 0.25% ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ มองจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่ทิศทาง Dollar Index ยังคงอยู่ในภาพการแกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางลงต่อเนื่องพยายามทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 101.6 ตามแนวโน้มส่วนต่างของการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED และธนาคารกลางของประเทศในเศรษฐกิจที่สำคัญเริ่มแคบลง มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ขณะที่ความเสี่ยงด้านปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดจะเพิ่มขึ้นระหว่างยุโรป-รัสเซีย หลังรัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจส่งรถถัง Leopard 2 ให้แก่ยูเครน ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศในกลุ่ม NATO สามารถส่งรถถังและให้การสนับสนุนด้านกระสุนปืนให้แก่ยูเครน ทำให้สถานทูตรัสเซียประจำกรุงเบอร์ลินออกแถลงการณ์ไม่พอใจ และมองการกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุรัสเซีย เราคาดตลาดจะยังไม่ให้นํ้าหนักกับประเด็นดังกล่าวมากนัก มองเป็นเพียง Noise เข้ารบกวนตลาดบ้างเล็กน้อย

สำหรับปัจจัยในประเทศเมื่อวานนี้ที่ประชุม กนง. มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 1.50% ตามที่ตลาดและเราคาดไว้ โดยมองเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง มองการที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด และเศรษฐกิจในต่างประเทศไม่ได้มีสัญญาณแย่อย่างที่เคยคาดไว้ คาดจะหนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้เท่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 อย่างไรก็ตาม ยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่ยังไม่ส่งสัญญาณถึง Terminal Rate ที่เหมาะสม โดยเราคาดว่า กนง. จะประเมินข้อมูลดังกล่าวอีกครั้งในระยะถัดไป ขณะที่คาดว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะเริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกราว 0.25% ตามดอกเบี้ยนโยบายที่ กนง. ปรับขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ มองเป็นปัจจัยบวกหนุน NIM ของธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารฟื้นตัวกลับขึ้นได้ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ขณะที่เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB, TKN และ SCC

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “KBANK”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสมตามแนวรับ 143.00 / 142.00 Target 151.00 / 160.00 Stop <141.00

- Advertisement -