สรุปภาวะตลาด
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรง ถึง -15 จุด ในระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย มีแรงขายมากในหุ้น กลุ่ม Big Cap. จากผลประกอบการของหุ้นรายตัวที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้มีแรงขายในหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,671.34 จุด -10.77 จุด -0.64% มูลค่าการซื้อขาย 72,406 ลบ.ต่างชาติ +1,195.62 ลบ. TFEX -35,148 สัญญา ตราสารหนี้ -7,591.95 ลบ.
ปัจจัยบวก +
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 205.57 จุด +0.61% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP 4Q65 สูงเกินคาด ซึ่งช่วยให้ ตลาดคลายความกังวลเก่ียวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในสัปดาห์หน้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ +1.07% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันท่ัวโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากจีนเปิดประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ตัวเลข GDP
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP 4Q65 ครั้งที่ 1 ขยายตัว 2.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% หลังจากขยายตัว 3.2% ใน 3Q65 โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงส้ินปี 2565
+ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของจีนเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงในโรงพยาบาลของจีนลดลงกว่า 70% จากระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนม.ค.
ปัจจัยลบ –
– โฆษกท่าเนียบเครมลิน กล่าวว่า การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในขณะน้ี เนื่องจากผู้นำยูเครนไม่มีความสนใจที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจา แสดงสัญญาณสงครามมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไป
– ยูเครนประกาศแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศท่ัวประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า หน่วยป้องกันภัยทางอากาศยิงขีปนาวุธของรัสเซียร่วงลง
– แบงก์รัฐทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้มีผลทันทีในเดือนมกราคม
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันน้ีมีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ใน 4Q65 ที่สูงเกินคาด ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,665-1,680 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
- จีนเปิดประเทศ+เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
- หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
- หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
- หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
- หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
- หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL
หุ้นรายงานพิเศษ
BGRIM – (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 46.00 บาท) พลังงานหมุนเวียนดันรายได้โตแตะ 1 แสนล้านบาท ในปี 2573
- ผบห.ตั้งเป้าปี 2573 รายได้เพิ่มขึ้นแตะ 1 แสนล้านบาท หวังเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 3,379 เมกะวัตต์ เป็น 10,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ EBITDA โตปีละ 10% สอดคล้องกับ EBITDA Margin มากกว่า 35% คาดใช้งบลงทุนราว 7.0 หมื่น ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power) มากขึ้นในปี 2565 สัดส่วนผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียน 25% โดยปี 2573 สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด อีกทั้งมองการเติบโตของการลงทุนโรงไฟฟ้ากระจายไปทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย ยุโรปและตะวันออกกลาง
Source: BGRIM Analyst Meeting
- ด้านเงินลงทุน ผบห.ประเมินว่าไม่ต้องเพิ่มทุน โดยระยะเวลาการลงทุน 7 ปี วางงบตามสัดส่วนการถือหุ้นมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท มาจากกระแสเงินสด 1 หมื่นล้านบาท กระแสเงินสดในการดำเนินงาน 4.5 หมื่นล้านบาท และเงิน จากการออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท จึงมีแผนจะออกหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ (Perpetual bond) ในช่วงปลายเดือน มีนาคม 2566
- ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำนินงานในอนาคต เนื่องจากสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน หมุนเวียนที่มากขึ้น จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่าลงหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเติบโต อีกทั้งการกระจายพอร์ตการลงทุน โรงไฟฟ้าในต่างประเทศ สามารถช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุนพลังงานได้ โดยราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เท่ากับ 45.00 บาท ราคาปิดมี upside จากราคาเหมาะสมไม่มากราว 7% เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่อ อ่อนตัว”
หุ้นมีข่าว
(+) WARRIX (Bloomberg consensus 10.16 บาท) ซื้อกิจการบริษัท Premier Football ในประเทศสิงคโปร์ มูลค่า 30 ล้านบาท พร้อมลงทุนซื้อสิทธิแบรนด์ “Fit Junctions” ลุยธุรกิจฝึกสอนออกก่าลังกาย และให้ค่าปรึกษาด้านโภชนาการ รุกทำตลาดออนไลน์ ตั้งเป้ากวาดรายได้จากธุรกิจด้านสุขภาพไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TPOLY (Bloomberg Consensus – บาท) คว้างาน “เซ็นทรัลนครสวรรค์” มูลค่า 825 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกทะลุ 3.6 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ปี 2566 ราว 2,200-2,300 ล้านบาท พร้อมเดินเกมรุกประมูลงานภาครัฐ-เอกชนอีกกว่า 1-1.3 หมื่นล้านบาท คาดได้รับไม่น้อยกว่า 3.3 พันล้านบาท วางเป้ารายได้รวมปี 2566 ยืนเหนือ 3.5 พันล้านบาท (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) MINT (Bloomberg consensus 38.00 บาท) มั่นใจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นแกร่ง สบจังหวะขยายแบรนด์ NH ทั่วโลก ปีนี้ 10 แห่ง จีน ไทย ตะวันออกกลาง ดันรายได้กลุ่มโรงแรมโต 20% ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารในจีนทยอยฟื้นหลังเปิดประเทศดันกำไรกลุ่มโต 7-10% ย้ำกลยุทธ์ ขยายแบรนด์ข้ามประเทศ-พัฒนาเมนูใหม่กระตุ้นการบริโภค (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WINMED (Bloomberg consensus – บาท) ต้ังเป้ารายได้ปี 2566 แตะพันล้านบาท ใส่เกียร์ ขยายฐานลูกค้า B2C ผ่านช่องทางออนไลน์ร้านขายยา-โมเดิร์นเทรด คาดสัดส่วนชน 20% เชื่อผลิตภัณฑ์ AVA ฮอต พร้อมลุยบริการบริจาคโลหิตเพิ่มอีก 5-6 แห่ง หวังขยายครอบคลุมทุกพื้นที่ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงาน ภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
- 6 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ รายงาน CPI เดือนม.ค.
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 27 ม.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.
- 30 ม.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนม.ค.
- สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟด สาขาดัลลัส
- 31 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนม.ค.จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)
- สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอส แอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board
- 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กำหนดการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย