ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
รีบาวด์แต่น่าจะยังผันผวน
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ รีบาวด์แต่น่าจะยังผันผวน (ตลาดไม่มั่นใจทิศทางกำไร บจ. ไตรมาส 4/65)… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง (อ่อนแอกว่าคาด) หลังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มปิโตรฯ (งบ SCC* ต่ำคาด) รวมทั้งกลุ่มโรงไฟฟ้าและหุ้นบางตัวในกลุ่มการเงินที่แนวโน้มงบไตรมาส 4/65 น่าจะแย่กว่าที่เคยคาดกัน… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น สะท้อนการบวกแรงของหุ้น TESLA ซึ่งรายงานกำไรไตรมาส 4/65 สูงกว่าที่คาดมาก ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี โดย GDP ไตรมาส 4/65 เติบโต 2.9% QoQ เทียบเป็นรายปี ดีกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 2.6% QoQ ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ii) แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด แต่ตลาดยังคงมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไว้เช่นเดิม โดย Fed Fund Futures คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุม FOMC วันที่ 1 ก.พ. นอกจากนี้นักลงทุนควรติดตามผลการประชุม ECB ในวันที่ 2 ก.พ. ด้วยเช่นกัน…. ในภาพรวม ฝ่ายวิจัยฯ ยังมองทิศทางหลักของ SET Index เป็นบวก และแนะนำให้ทยอยสะสมในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐาน เชื่อว่าความเสี่ยงทางลงจากระดับปัจจุบันมีน้อยแล้ว
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร ZEN*, BBGI, BBL*
- ZEN* (เป้าพื้นฐาน 21 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 18.5 – 19.2 บาท กรณียืนเหนือกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิมก่อนหน้าที่ +/- 20.0 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงาน 4Q65 = 55 ล้านบาท (+98% YoY และ 8% QoQ) จากทั้งยอดขายที่ฟื้นตัวและอัตรากำไรที่ดีขึ้น รวมทั้งสามารถคุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดี ขณะที่คาดกำไรปี 2566 จะยังโตต่อเนื่องอีก +38% YoY 3) Forward PE 25.7 เท่า คิดเป็นราว -0.75 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 33 เท่า
- BBGI (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.80 บาท / แนวต้าน 7.0 – 7.15 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.5 บาท (Stop loss 6.7 บาท) 2) รับ Sentiment บวกจากการที่ บ.แม่ BCP เข้าซื้อกิจการ ESSO ซึ่งคาดเป็นบวกต่อปริมาณขายไบโอดีเซลและเอทานอล (เดิมเน้นขายในกลุ่มฯ) เป็น Upsdie ที่ยังไม่อยู่ในประมาณการฯ 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q65 (คาดกำไรโต YoY, Turnaround QoQ) และปี 2566 คาดกำไรฟื้นตัว >700% YoY เป็น 583 ล้านบาท ผลจากการเปิดประเทศหนุนปริมาณการใช้น้ำมัน ขณะที่คาดโอกาสขาดทุนสต๊อกน้ำมันปาล์มปัจจุบันต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับลดลงมาก 3) Forward PE ปีนี้คาดลดลงเหลือ 17.5 เท่า ขณะที่ PBV 0.96 เท่า ต่ำกว่า 1 เท่า ขณะที่คาดผลการดำเนินงานปีนี้ฟื้นตัวเด่น
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 157 บาท / แนวต้าน 159 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 164 บาท (Stop loss 153.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะส่งผลบวกต่อ NIM ii) สินเชื่อกลุ่มลูกค้าองค์กร (ลูกค้าหลักของ BBL) ฟื้นตัวก่อนลูกค้ารายย่อยและ SME รวมทั้งเป็นกลุ่มที่ความเสี่ยง NPL ต่ำกว่า (สะท้อนในคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL ใน 4Q65) 3) คาดปันผลที่เหลือของปี 2565 อีก 2.34 บาท/หุ้น (Yield 1.5%) และ PBV ต่ำเพียง 0.59 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) ปิดดีล ‘อมุนติ” 3 หมื่นล้าน KBANK* ตัดขายบลจ. 49% คาดรับรู้กำไรหลังภาษีกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท (ข่าวหุ้น) แบงก์กสิกรไทย (KBANK*) ปิดดีลขาย “บลจ.กสิกรไทย” (KAsset) ให้กับ “กลุ่มอมุนติ” กองทุนยักษ์ใหญ่ของยุโรป สัดส่วน 49% ด้วยมูลค่าอาจสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท จับตา KBANK* มีโอกาสรับรู้กำไรหลังหักภาษี 2.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ “พัชร สมะลาภา” ย้ำต้องการหาพันธมิตรเสริมแกร่งให้กับ KAsset ที่เป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญของธนาคารฯ โบรกฯ คาด KBANK* ผันกำไรส่วนนี้ไปตั้งสำรองฯ รวมถึงลงทุนธุรกิจอื่นเพิ่ม ส่วน 16 ก.พ.นี้ บลจ.กสิกรไทย แถลงข่าวเปิดแผนธุรกิจ
(+) GULF* – GUNKUL* เทคนิคฉลุย! เข้ารอบซิงเกิน 40 โครงการ (ข่าวหุ้น) GULF* – GUNKUL* นำ โด่งผ่านรอบเทคนิค เข้าสู่รอบชิงพลังงานหมุนเวียน 5 พันเมกฯ มากสุดเกิน 40 โครงการ ทั้งโซลาร์รวม แบตฯ พลังงานแสงอาทิตย์บนดินและลม ก่อนประกาศผลผู้ชนะประมูล 22 มี.ค.นี้ ส่วนโรงไฟฟ้าขยะอุตฯ ETC ผ่านเทคนิคมากสุด 10 โครงการ 100 MW ด้านโนมูระฯ มองเชิงบวก ยกหุ้น GULF*-GUNKUL* รับประโยชน์มากสุด
(+) SCC พ้นวิกฤติพร้อมโต ปันผล 2 บ. ลงทุน 5 หมื่นล. (ทันหุ้น) SCC ลั่นปี 2566 รายได้ทะยาน 10% จากปี 2565 รับเศรษฐกิจฟื้น-เคมิคอลหนุน แถมเดินหน้าทุ่มงบ 4-5 หมื่นล้านบาท ลุย LSP ขยายธุรกิจเพิ่ม ปูทางโกยเงิน ลดต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น แถมเคาะจ่ายปันผลหุ้นละ 2 บาท กำหนด XD รับทรัพย์วันที่ 7 เมษายน 2566 เผยยังไม่เคาะวันขายหุ้นไอพีโอ SCGC ระบุขอดูสถานการณ์ก่อน
(+) WARRIX ลุยเทกโอเวอร์ ซื้อสิทธิแบรนด์ฟิตจังชั่น (ทันหุ้น) WARRIX ซื้อกิจการบริษัท Premier Football ในประเทศสิงคโปร์ มูลค่า 30 ล้านบาท พร้อมลงทุนซื้อสิทธิแบรนด์ “Fit Junctions” ลุยธุรกิจฝึกสอนออกกำลังกาย และให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ รุกทำตลาดออนไลน์ ตั้งเป้ากวาดรายได้จากธุรกิจ ด้านสุขภาพไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
(+) บิ๊กเนม 13 รายแห่ซื้อซองประมูล ทางด่วนพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง 1.4 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) เอกชน ไทย-เทศแห่ซื้อซองประมูล PPP ทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต วงเงิน 14,670 ล้านบาท รวม 13 ราย บิ๊กเนมไทยตบเท้ามาเพียบ! STEC*, ITD, UNIQ, BEM*, BTS*, NWR, CK*, RT, DMT การทางพิเศษฯ กำหนดยื่นซอง 7 เม.ย.นี้ ก่อนเปิดข้อเสนอซองที่ 1 วันที่ 28 เม.ย. 66 คาดได้ตัวผู้รับงานปลายปี 66
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- แนะนํา ‘Let profit run” โดยกำาหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 101.5 บาท)
- BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 40.0 บาท หากผ่านได้แนะนํา “Let profit run” (Trailing stop 37.0 บาท)
- BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32.5 บาท / แนวต้าน 34-37 บาท (Trailing stop 31.5 บาท)
- SHR (เป้าพื้นฐาน 6.1 บาท) แนวรับ 4.50 บาท / แนวต้าน 4.60-4.80 บาท (Trailing stop 4.38 บาท)
- TOP* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 57.5 บาท / แนวต้าน 59.25-60.0 บาท (Stop loss 57 บาท)
- KTB* (เป้าพื้นฐาน 19.4 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.1-18.4 บาท (Stop loss 17.3 บาท)
- GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 24.4 บาท) แนวรับ 20.2 บาท / แนวต้าน 20.7-20.9 บาท (Stop loss 20.2 บาท)
- LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.1-13.5 บาท (Stop loss 12.4 บาท)
- ADVANC* (เป้า IAA Consensus 235 บาท) แนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 204-207 บาท (Stop loss 199 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” จากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs (AREA) ยอดเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 พุ่งขึ้น 77% YoY ขณะที่อุปสงค์ที่อยู่อาศัยปี 2565 ฟื้นตัวเด่นที่ 30% YoY (เทียบกับ +15% YoY ปี 2564) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินวัฏจักรการลดล้างสต๊อกบ้านผ่านไปแล้ว และประเมินอุปสงค์ปีนี้จะฟื้นตัว +10% YoY เลือก AP, LH เป็นหุ้นเด่น
- ZEN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 21 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q65 = 55 ล้านบาท (+98% YoY +8% QoQ) โดยยอดขายดีขึ้นทั้งส่วนของร้านอาหารและค้าปลีก ขณะที่สามารถคุม SG&A ได้ดี รวมทั้งอัตรากำไรดีขึ้น ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มประมาณการฯปี 2566 – 67 ขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21 บาท (เดิม 18 บาท) ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”)
- GPSC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 80 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุน -475 ล้านบาท ใน 4Q65 (พลิกขาดทุนจากที่กำไรในไตรมาสก่อนหน้า) สาเหตุหลักมาจากเป็นผลจากต้นทุนการผลิตที่ยังสูง อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของ GPSC จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
Strategic SET daily
ภาพรวมตลาดหุ้นเช้านี้: แกว่งออกข้างบริเวณกรอบล่าง downtrend หากหลุด low 1667 downside เปิด
- ดัชนี SET index เมื่อวานนี้: ดัชนีปรับตัวลงจากแรงซื้อขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ไฟแนนซ์ วัสดุก่อสร้าง และปิโตรฯ
- ภาพรวมดัชนี SET index เช้านี้: คาดดัชนีแกว่งออกข้างบริเวณกรอบล่าง downtrend เนื่องจากเมื่อวานนี้ ดัชนีปรับตัวลงแรงก่อนปิดตลาดช่วงเช้า และช่วงบ่ายดัชนีมีแรง rebound เพียงเล็กน้อย โดยกลับมาปิดบริเวณแนวรับกรอบล่างบริเวณ 1670 วันนี้จึงมองว่าอาจเกิด technical rebound เล็กน้อย และจะเป็นเพียงการแกว่งบริเวณโซนกรอบล่าง downtrend ช่วง 1670-1680 ระยะสั้นยังต้องเพิ่มความระมัดระวังการหลุดแนวรับ low 1667 ซึ่งหากหลุด แนะนำลดพอร์ตการลงทุนในระยะสั้น โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ 1660
- กรณีดัชนี rebound อาจใช้เป็นโอกาสขายเล่นรอบที่แนวต้านบริเวณ 1680/1686
- แนวรับเช้านี้: 1660/1667, แนวต้านเช้านี้: 1680/1686
หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus