บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +6.4%

Close Jan 26, 2023 Price 1.45 

12M Target 1.56

TMBTHANACHART BANK (TTB)

เป้าหมายการเงินปี 66 ไม่น่าตื่นเต้น….ราคาหุ้น Upside น้อย

Event

วานนี้ TTB จัดประชุมนักวิเคราะห์ เพื่อแถลงเป้าหมายทางการเงินปี 2566 และแผนธุรกิจของบริษัท เราสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้

  • เป้าการเติบโตสินเชื่อที่ 3%YoY เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้เพียงทรงตัว หลักๆ จะมาจากการเร่งขยายสินเชื่อที่เป็นกลุ่ม High Yield ทั้งในส่วนของ TTB Consumer (สินเชื่อเพื่อการบริโภค) และสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ โดยใช้ประโยชน์จากการ Cross Selling และ Upselling ผ่าน Digital Platform ซึ่งถูกปรับปรุงให้มี User Interface และ User Experience ที่ดีขึ้น เช่น การนำเสนอวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพิ่มเติมให้กับลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ หรือลูกหนี้สินเชื่อบ้านที่มีการชำระเงินดี (หลักการคล้ายกับการทำ Debt Consolidation) หรือการแจ้งเตือนข้อมูลทางการเงิน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินในระดับบุคคล
  • ตั้งเป้าเพิ่ม NIM เป็น 3-3.1% จากปีก่อนที่ 2.95% หนุนด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้หลายๆ ผลิตภัณฑ์ บวกกับการเลือกขยายสินเชื่อ High Yield และลดสัดส่วนสินเชื่อ Low Yield เช่นสินเชื่อบริษัทและ SME ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ปรับตัวขึ้น และอัตราเงินนำส่งกองทุน FIDF ที่กลับสู่ระดับปกติที่ 0.46% (จากที่ลดเหลือ 0.23% ใน 2 ปีที่ผ่านมา)
  • รายได้ค่าธรรมเนียมคาดปรับขึ้นในระดับ Low Single Digit เนื่องจากธุรกิจฝั่งตลาดทุนยังมีความท้าทาย แต่การเติบโตจะมาจากค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัยเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทำตลาดบน Digital Platform ของบริษัทมากขึ้น
  • สำหรับ NPL คาดปรับขึ้นเป็นไม่เกิน 2.9% จาก 2.7% ในปีก่อน หลังมีแผนปรับชั้นลูกหนี้ที่เคยได้รับมาตรการช่วยเหลือบางส่วนลง ก่อนที่มาตรการผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ของ ธปท. จะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี แต่คาดการตั้งสำรองลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน โดยบริษัทประเมินระดับ Credit Cost อยู่ที่ 125-135 bps จาก 133 bps ในปี 2565 (ให้น้ำหนักไปทาง 125 bps)
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังทรงตัวใกล้ปีก่อนที่ระดับ 45% ถึงแม้จะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายระบบที่ทับซ้อนกันระหว่าง 2 ธนาคาร รวมถึงมีแผนลดพนักงาน Back Office ลง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการลงทุนพัฒนาระบบ IT รวมถึงการเพิ่มกำลังคนในสายงาน IT มากขึ้น เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

Our Take

เรามีมุมมองเป็นกลางหลังจบการประชุม โดยเป้าหมายการเงินของบริษัทไม่ได้แตกต่างจากประมาณการของเราอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงคงคาดปี 2566 TTB จะมีกำไรสุทธิ 15,132 ลบ. โต 6.6%YoY ตามประมาณการเดิม หนุนจาก NIM และพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีขึ้น บวกกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่ฟื้นตัว ส่วนการตั้งสำรองแม้คาดจะลดลง แต่มีช่องว่างให้ลด Credit Cost ได้ไม่มากเมื่อเทียบกับธนาคารใหญ่ เราคาดช่วง 1Q66 จะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น เนื่องจากพัฒนาการในด้าน Digital Platform ต่างๆ จะเริ่มทยอยให้บริการตั้งแต่ 2Q66 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี TTB มีจุดเด่นที่การใช้นโยบายระมัดระวัง ทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่ และการจัดชั้นลูกหนี้ ทำให้เราไม่กังวลกับคุณภาพสินทรัพย์ของ TTB

สำหรับราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside เพียง 6.4% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 1.56 บาท (ถึง Prospective PBV ที่ 0.7x) แต่คาดบริษัทจะจ่ายเงินปันผลจากกำไร 2H65 ที่ 0.04 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div. Yield 2.8% เราจึงคงคำแนะนำ “TRADING”

- Advertisement -