Daily Focus: Selective and Earnings Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าที่คาด ปิดบวก 9.95 จุด กลุ่มธนาคารปรับตัวได้แข็งแกร่งรวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่อื่นที่มีแรงซื้อกลับ ตลาดได้ Sentiment หนุนจาก GDP 4Q22 ของสหรัฐฯ ที่ดีกว่า สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 694 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นต่อเนื่องและเร่งขึ้นเป็น 2.8 พันลบ. (และพลิกมา Long Index Futures หนาแน่น 2.7 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,675-1,690 จุด โดยยังมีแรงหนุนอ่อนๆหลังตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ออกมาตามคาด และชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ค่อนข้างแน่นอนที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิชิแกนเดือน ม.ค. ฟื้นตัวได้สู่ระดับ 64.9 ด้านตลาดเอชียคาดกลับมาคึกคึกขึ้นจากจีน และไต้หวันกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังหยุดทั้งสัปดาห์ก่อนเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โฟกัสในประเทศอยู่ที่การทยอยประกาศกำไร 4Q22 ของบริษัทจดทะเบียน โดยวันนี้ติดตาม PTTEP ภาพรวมกำไรบจ.ของ SET คาดว่าจะฟื้นตัวได้ q-q นำโดยกลุ่มน้ำมัน Consumption และ Reopening Play ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นและการเปิดประเทศ เรามองจังหวะพักตัวของราคาหุ้นเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22 แข็งแรง
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้น 4Q22 แข็งแกร่ง // ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO
หุ้นเด่นวันนี้ : SHR
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท
- เรายังคืนคาดการณ์กำไร 4Q22 ที่ 148 ลบ. flat q-q แต่พลิกจากขาดทุนใน 4Q21 หนุนจาก High Season ของธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟท์ ส่งผลให้ RevPar คาดปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ฝั่งอังกฤษแม้เป็น Low season แต่คาด RevPar ยังสูงกว่าก่อน COVID-19 ราว 20%
- เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 ของ SHR จะพลิกมีกำไรได้เล็กน้อย 55 ลบ. และเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะเป็น 458 ลบ.ในปี 2023 รวมถึงได้ประโยชน์จากค่าไฟในยุโรปที่ปรับลงแรง รวมถึงจีนเปิดประเทศเป็นบวกต่อธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟท์ต่อเนื่อง
- แนวรับ 4.20 บาท แนวต้าน 4.62 บาท
Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่นต่อเนื่องอีก US$987 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$800 ล้าน ขณะที่อาเซียนไหลเข้าทุกประเทศนำโดยไทยและอินโดนีเซีย US$86 ล้าน และ US$61 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดว่ายังไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะไต้หวันที่กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากหยุดทั้งสัปดาห์เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) เงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯเดือน ธ.ค. ชะลอตามคาด Headline PCE +0.1% m-m, +5% y-y ส่วน Core PCE ซึ่งเป็นตัวเลขที่ FED ใช้ดู +0.3% m-m, +4.4% y-y ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ +4.7% y-y ขณะที่การประชุม FED สัปดาห์นี้ค่อนข้างแน่ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 4.50-4.75% และเป็นครั้งแรกที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่า Core PCE ภาพรวมยังเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้ทยอยปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลข การเติบโตของเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดในระยะถัดไป
(-) STANLY ประกาศกำไรปกติ 392 ลบ.ใน 3Q23 (ต.ค.-ธ.ค. 2022) -18% q-q, +0.1% y-y ต่ำกว่าเราคาด 13% จากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด แม้ว่ายอดขายในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสจะทำได้ดี แต่กลับซบเซาในเดือน ธ.ค. เพราะวันหยุดจํานวนมากและลูกค้าสต็อกไปในช่วงก่อนหน้า เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-2025 ลงเล็กน้อย 2%-4% สะท้อนค่าไฟที่ปรับขึ้นและมีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อต้นทุน ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 230 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
(0) SPALI คาดกำไร 4Q22 ที่ 2.1 พันลบ. -24% q-q, -28% y-y เนื่องจากขาดคอนโดใหม่ที่เริ่มโอนและฐานที่สูงใน 3Q22 และ 4Q21 จบปี 2022 คาดกำไร 8.1 พัน ลบ. +14% y-y แต่คาดชะลอตัวเหลือ 7.2 พันลบ. -11% y-y จาก Project sales ที่คาดลดลงตามจํานวนคอนโดที่น้อยกว่าปีก่อน Backlog ปัจจุบันครอบคลุมยอดโอนที่เราคาดไปแล้วราว 46% ผู้บริหารตั้งเป้า Presales ปีนี้ 3.6 หมื่นลบ. +11% y-y เราประเมินราคา เป้าหมายที่ 27 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) VGI คาดกำไร 3QFY22 (ต.ค.-ธ.ค. 22) ที่ 60 ลบ. พลิกจากขาดทุน 147 ลบ.ในไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากเม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกบ้านที่ฟื้นตัวเร่งขึ้นและสูงกว่าการเติบโตของปริมาณผู้โดยสาร หนุนรายได้เติบโตเด่น ขณะที่ธุรกิจ Rabbit Group และ Digital Media มีพัฒนาการที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่มั่นใจต่อธุรกิจ NINE KEX และ Rabbit Group ที่ปัจจุบันยังมีผลประกอบการไม่ดี และแนวโน้มยังไม่แน่นอน ขณะที่ JMART อาจเติบโตได้ต่อกว่าที่เราเคยประเมิน ซึ่งธุรกิจสื้อนอกบ้านที่ฟื้นตัวอาจชดเชยได้ไม่หมด เราคาด VGI จะขาดทุนสุทธิ 120 ลบ.ในปี 2022 ก่อนพลิกกำไร 247 ลบ.ปีนี้ คงราคาเป้าหมาย 4.30 บาท แนะนำเพียง “ถือ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 28.67 จุด หรือ +0.08% ปิดที่ 33,978.08 จุด จากตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธ.ค. (PCE) +5.0 y-y ชะลอตัวลงจากเดือน พ.ย. ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า FED จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก แรงหนุนจากภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุม FED ในสัปดาห์นี้
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังหยุดยาวในช่วงตรุษจีน
(0) ค่าเงินบาท แกว่งทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 32.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการเทขายทำกำไร ท่ามกลางความกังวลกับแนวโน้มตลาดก่อนการประชุมโอเปกพลัส ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 80.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.88%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 0.6 ดอลลาร์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,929.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 1,926.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.16%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 918.50 / -0.87