บล.ฟิลลิป:

ธนาคารกสิกรไทย – KBANK ตั้งเป้าโตแบบระมัดระวัง

Key Point

ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5 – 7% เป็นระดับที่สูงกว่าปี 65 แต่จะหันไปเน้นปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่มากกว่าสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อ SME เนื่องจากมองว่ายังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอยู่ และความไม่แน่นอนนี้เองที่อาจจะยังทำให้ KBANK มีการตั้งสำรองสูงในปี 66 ถึงแม้ว่าในปี 65 จะมีการตั้งสำรองสูงมากไปแล้วก็ตาม แต่การตั้งสำรองจะลดลง และรายได้ดอกเบี้ยที่จะเพิ่มตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้กำไรยังโต คงราคาพื้นฐาน 162 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”

ตั้งเป้าสินเชื่อโตในปี 66 5-7%

KBANK ตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเพิ่มในปี 66 5-7% โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จะเป็นสินเชื่อที่เติบโตสูงที่สุด โดยตั้งเป้าที่จะปล่อย 4-6% โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จะได้รับผลบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ในขณะที่จะลดสัดส่วนการเติบโตในสินเชื่อรายย่อยลงจากความเสี่ยงที่ยังมีอยู่ โดยจะปล่อยเพิ่ม 2-4% ส่วนสินเชื่อ SME ตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 1-2%

ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มไม่มาก

KBANK ตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปี 66 เพิ่มเป็น 3.33 – 3.45% ถึงแม้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปี 65 จะอยู่ที่ 3.33% และใน 4Q65 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.62% แล้ว และยังมีแนวโน้มที่ในปีนี้จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปได้อีก แต่การหันมาเน้นปล่อยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่มากขึ้น ซึ่งสินเชื่อประเภทนี้มีผลตอบแทนสินเชื่อต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ประกอบกับการกลับมาจ่ายเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ในระดับเดิม ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทาง KBANK ยังตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ Conservative

จะยังตั้งสำรองสูงในปี 66

ในปี 65 ถึงแม้ว่า KBANK จะมีการตั้งสำรองสูงมากถึง 52 พันลบ. หรือ 2.1% ของสินเชื่อรวมจากปี 64 ที่มีการตั้ง 40 พันลบ. หรือ 1.7% ของสินเชื่อรวม เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์แต่ในปี 66 จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ทำให้ทาง KBANK จะยังคงตั้งสำรองสูงต่อเนื่องอีก แต่จะตั้งน้อยกว่าปี 65 แน่นอน โดยทาง KBANK ตั้งเป้าว่าจะตั้งสำรองอยู่ในช่วง 1.75 – 2% ของสินเชื่อรวม และตั้งเป้าจะรักษาระดับ NPL ไว้ไม่ให้เกิน 3.25% จากสิ้นปี 65 มี NPL อยู่ 3.19%

คงประมาณการกำไร น่าจะกลับมาจ่ายปันผลในอัตราก่อน COVID-19

ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 66 ของ KBANK ไว้ที่ 37 พันลบ. เพิ่มขึ้น 3.9% y-y และคาดว่าจะจ่ายปันผล 4.75 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นระดับ Pay out ratio ก่อน COVID-19 ส่วนปันผลปี 65 คาดว่าจะจ่าย 3.25 บาท/หุ้น โดยมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.50 บาท/หุ้น

ความเสี่ยง

  1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย
  2. ความเสี่ยงด้านเครดิต
  3. การเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
- Advertisement -