บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Downgrade)

TP upside (downside) +14.0%

Close Jan 27, 2023 Price 191.0

12M Target 218.00

THAI STANLEY ELECTRIC (STANLY) กำไร 3Q65/66 ชะลอตัวต่ำกว่าคาด….ปีหน้าฟื้นตัว
Earning Results
  • บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q65/66 (สิ้นสุด ธ.ค.65) ที่ 379 ล้านบาท -23%QoQ และ -5%YoY ต่ำกว่าประมาณการของเรา 13% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าที่เราคาดไว้
  • ผลประกอบการชะลอตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลไตรมาสนี้ไม่มีบันทึกเงินปันผลจากบริษัทลูกที่เวียดนาม เป็นผลให้รายได้อื่นๆ ลดลง 69% QoQ จาก 144 ล้านบาท เหลือ 44 ล้านบาท ขณะที่เทียบ YoY รายได้ปรับเพิ่ม 3%YoY เป็น 3,602 ล้านบาท ซึ่งเติบโตตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ที่ยอดผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 13%YoY จากปัญหาขาดแคลนชิพบรรเทาความรุนแรงลง และขณะที่ค่ายรถยนต์ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 3Q64/65 ที่ 19.0% เหลือ 17.0% เนื่องจากราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าไฟที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน
Our Take
  • แม้กำไร 3Q65/66 จะออกมาต่ำกว่าที่เราคาด แต่ประมาณการทั้งปีของทำไว้อนุรักษ์นิยมอยู่แล้ว โดยกำไร 9 เดือนคิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี ที่เราประมาณการไว้ที่ 1,526 ล้านบาท ทรงตัว YoY
  • แนวโน้มปี 2566/67 เราคาดกำไรจะฟื้นตัว 9% YoY เป็น 1,657 ล้านบาท อิงสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.94 ล้านคัน ซึ่งทาง STANLY ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่ม สำหรับสินค้าหลอดไฟทั้งไฟหน้า-ไฟท้าย ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถมอเตอร์ไซค์, และรถกระบะ รวมถึงโมเดลใหม่ที่เป็นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ด้านอัตรากำไรดีขึ้นหลังราคาวัตถุดิบหลักหลายตัวปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
  • เรามีมุมมองเป็นบวกในระยะยาว ต่อการที่รัฐบาลส่งเสริมตลาด EV ซึ่ง STANLY ที่มีจุดแข็งจากการเป็นผู้ผลิต โคมไฟ และหลอดไฟ สำหรับรถยนต์ รายใหญ่สุดในประเทศ ขณะที่สินค้าหลักที่ผลิตสามารถปรับให้ใช้กับรถกับ EV ได้ โดยเตรียมโรงงาน Lamp8 สำหรับรองรับการผลิตชิ้นส่วน EV ล่าสุดฮอนด้า ประกาศแผนลงทุน EV ในประเทศไทย โดยจะขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงปลายปี 2566 นี้ สำหรับโมเดล Honda e:NP1/e:NS1 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้า 100% เรามองเป็นบวกต่อ STANLY มากสุด ซึ่งฮอนด้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ ของบริษัท มีสัดส่วนราว 50% ของรายได้รวม ซึ่งมีโอกาสสูงที่บริษัทจะได้รับออร์เดอร์ EV จากทางฮอนด้า
  • เราปรับลดคำแนะนำ จาก “ซื้อ” เป็น “Trading” เรามองว่าระยะสั้นราคามีโอกาสอ่อนตัวลงมาจากผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี และกลับมาเติบโตในปี 2566/67 ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ขณะที่ระยะยาวเรามองการเข้ามาของ EV เรามองเป็นวัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ของบริษัท เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนไม่กี่รายที่สินค้าหลักที่ผลิตไม่ถูก disrupt และมีโอกาสได้ออร์เดอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ด้านสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash ไม่มีภาระหนี้สิน เราประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 218 บาท อิง PER เฉลี่ย ที่ 11×
- Advertisement -