Daily Focus: Selective and Earnings Play

2023SET Target: 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบแคบและปิดทรงตัว หุ้นที่ปรับตัวดีกว่าตลาด ได้แก่ SC PR9 SIRI STEC STPI เป็นต้น ซึ่งเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Theme การเลือกตั้ง สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 540 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 1 พันลบ. (และ Short Index Futures 1.2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,670-1,685 จุด  โดยภาพรวมตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงบวกต่อความคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปมากพอสมควร และเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นก่อนกาประชุม FED วันที่ 31 ม.ค.- 1 ก.พ. นี้  โดยตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ด้วยความน่าจะเป็นเกือบ 100% อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องใน 1Q23 ทั้งฝั่งสหรัฐฯและยุโรป ล่าสุด เยอรมนีเปิดเผย GDP 4Q22 เริ่มพลิกมา -0.2% q-q, +1.1% y-y ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสหลักยังอยู่ที่การทยอยประกาศกำไร 4Q22 ของบริษัทจดทะเบียนและพัฒาการทางการเมือง โดยเฉพาะโอกาสการยุบสภา เรายังมองบวกต่อกลุ่ม Consumption และ Reopening Play ที่ได้อานิสงส์โดยตรงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นและการเปิดประเทศโดยเฉพาะจีน เรามองจังหวะพักตัวของราคาหุ้นเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22 แข็งแรง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้น 4Q22 แข็งแกร่ง / ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : SIRI

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.10 บาท
  • ประกาศ Business Plan 2023 เติบโตในทุกมิติทั้งยอดขายและรายได้ ผ่านแผนรุกเปิดโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวม 7.5 หมื่นลบ. ครอบคลุมทุก Segment และสินค้า โดยเฉพาะเพิ่มพอร์ต High-end และคอนโดมากขึ้นเพื่อรองรับ Demand ต่างชาติที่กลับมา
  • ตั้งเป้ายอด Presales +22% y-y ที่ 4.7 หมื่นลบ. และตั้งเป้ายอดโอน (รวม JV) ที่ 4.1 หมื่นลบ. +11% y-y เบื้องต้นประเมินกำไร 4Q22 อยู่ที่ 1.7-1.8 พันลบ. +36% q-q, +401% y-y ทั้งปี 2022 คาด +98% y-y และปี 2023 +6% y-y ทำ New High ติดต่อกันเป็นปีที่ 2
  • แนวรับ 1.75-1.73 บาท แนวต้าน 1.85//1.95-2 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$2,517 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$2,506 ล้าน จากการกลับมาเปิดทำการวันแรกหลังหยุดทั้งสัปดาห์ก่อน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ประเทศอื่นกระแสเงินทุนผสมผสานไหลเข้าสลับไหลออกบางๆ ประเทศละ US$2-32 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดชะลอการไหลเข้า หลังจากตอบรับความคาดหวังเชิงบวกต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่คาดชะลอไปมากพอสมควร โดยตลาดรอจับตาผลการประชุม FED ปลายสัปดาห์

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) MINT เราคาดกำไร 4Q22 ที่ 2.1 พันลบ. +6% q-q, +29% y-y เป็นไตรมาสที่ดี แม้จะเป็น Low Season ในยุโรป ซึ่งทำให้ RevPar คาดชะลอ q-q แต่ได้แรงหนุนจากโรงแรมในไทยและมัลดีฟท์ที่เร่งตัว ขณะที่ธุรกิจอาหารคาดภาพรวมทรงตัว q-q ทั้งรายได้ และ Margin สําหรับ ปี 2023 เราเห็นปัจจัยบวกจากค่าไฟและราคาก๊าซที่ปรับลงในยุโรป ปัจจุบัน MINT ล็อคราคาค่าไฟและก๊าซไปแล้ว 60% ของปริมาณการใช้ ซึ่งอาจมี Hedging Loss บ้างในบางสัญญา แต่โดยรวมยังเป็นผลบวกและอาจเห็น Upside ต่อประมาณการ เราคาดปี 2022 จะพลิกมีกำไรปกติ 1.8 พันลบ. และเร่งขึ้นเป็น 5.5 พันลบ. +210% y-y ในปี 2023 ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 40 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

(0) GFPT คาดกำไร 4Q22 ที่ 469 ลบ. -37% q-q แต่โตแรงจากฐานต่ำใน 4Q21 การอ่อนลง q-q เกิดจากปัจจัยฤดูกาล ราคาไก่อ่อนลงเล็กน้อยและบาทแข็ง หากกำไร 4Q22 ได้ตามคาด จะมีกำไรปกติปี 2022 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2.1 พันลบ. +15x y-y แนวโน้มราคาไก่ดูทรงตัวดีระดับ 40-42 บาท/กก. ใน 1H23 หลัง demand ในประเทศฟื้นตัวดี และคำสั่งซื้อของลูกค้าญี่ปุ่นยังดีต่อเนื่อง ส่วนราคาวัตถุดิบข้าวโพดและกากถั่วเหลืองยังปรับลงช้า และคำสั่งซื้อฝั่งยุโรปดูแผ่วลง จากทั้ง Recession และหันไปซื้อไก่บราซิลที่ราคาต่ำกว่ามากขึ้น เรายังคงมุมมองเดิม ว่ากำไรได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วใน 3Q22 และคาดก่าไรปี 2023 -17% y-y เป็น 1.7 พันลบ คงราคาเป้าหมาย 18 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) OSP คาดกำไร 4Q22 ที่ราว 380 ลบ. +56% q-q, -55% y-y ฟื้นตัวอย่างช้าๆ แม้จะกลับมาออก M-150 ขวด 10 บาท ในช่องทาง TT ทำให้ส่วนแบ่งตลาด 4Q22 ขยับขึ้นได้บ้าง แต่ต้นทุนก๊าซยังสูงขึ้นจาก 3Q22 กอปรกับค่าไฟเริ่มปรับขึ้นทำให้ Margin ชะลอ จบปี 2022 คาดกำไร 1,978 ลบ. -39% y-y ต่ำกว่าที่ Consensus คาดราว 6% บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2023 เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยอยู่ระหว่างบุกด้วยขวด 10 บาทควบคู่กับ 12 บาท เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาอีกราว 2-3% ฝั่งต้นทุนจะทยอยดีขึ้นเป็นลำดับโดยคาดหวังการฟื้นตัวของ Margin ใน 2H23 จากต้นทุนก๊าซที่ทยอยลดและ Offset กับค่าไฟที่เพิ่มขึ้น เป้ากำไรในปี 2023 ที่บริษัทอยากกลับมาทำได้คือราว 3 พันลบ. +52% y-y เท่าในอดีตซึ่งท้าทาย ส่วนเบื้องต้นเราคาดกำไร 2023 ที่ 2.5 พันลบ. +26% y-y หากอิง PER 35 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายที่ 29 บาท แนะนำเพียง “ถือ/รอซื้ออ่อนตัว

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 260.99 จุด หรือ -0.77% ปิดที่ 33,717.09 จุด ตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุม FED และการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสเปน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางกลุ่มประเทศรายใหญ่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมของ FED

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 32.79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 77.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดถูกกัดดันจากรายงานว่ารัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันในปริมาณมาก แม้ถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 78.00 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.13%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,939.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์และแรงขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำขึ้นมาแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 1,938.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.06%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 917.05 / -1.45

- Advertisement -