จับตาการประชุม Fed/ECB/BoE  ผลประกอบการ บจ.

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,681.22 จุด ลดลง 0.08 จุด (0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 54,952.17 ล้านบาท แกว่งตัว sideway รอผลการประชุม Fed และ ECB

แนวโน้มตลาด วันนี้… เสี่ยงปรับฐาน โดยยังรอปัจจัยบวกใหม่หนุนตลาด ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมนโยบายการเงินของทั้ง Fed ECB และ BoE ทำให้เกิดแรงขายลดความเสี่ยง สำหรับเฟดจะเริ่มประชุมวันนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% และการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของพาวเวลในการประชุมครั้งถัดไป เพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเกิด soft landing ขณะที่ ECB และ BOE คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ส่วนปัจจัยในประเทศหุ้นในธีมการเลือกตั้งปรับตัวขึ้นเด่น ขานรับฤดูกาลหาเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ส่วนวันนี้จะมีรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย เดือน ธ.ค. คาดว่าจะเกินดุล 500 ล้านดอลลาร์ สรอ. หากเกินดุลกว่าคาดจะหนุน Fundflow ไหลเข้า ขณะที่ รมว.การท่องเที่ยวฯ เตรียมนำร่างกฎหมายเก็บค่าธรรมเนียมของต่างชาติที่เดิน ทางเข้าไทยทางอากาศ 300 บาท ทางน้ำ-ทางบก 150 บาท ในกลางปีนี้ เสนอต่อการประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคน มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว รวมถึงติดตามผลประกอบการ บจ. หากออกมาดีกว่าคาดจะเกิดแรงซื้อกลับ

สัปดาห์นี้ ติดตาม…

    • 31 ม.ค. PMI ม.ค. จีน, รายงานเศรษฐกิจไทย จาก ธปท.
    • 1 ก.พ. CPI ม.ค. ยุโรป, PMI ม.ค. สหรัฐฯ, การประชุมเฟด
    • 2 ก.พ. การประชุม ECB
    • 3 ก.พ. Nonfarm Payrolls ม.ค.

กลยุทธ์ การลงทุน … ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนะนำ Trading ในกรอบ 1672-1694 รอผลประกอบการ 4Q โดย Selective buy

    • กลุ่มท่องเที่ยว-การบริโภคในประเทศ MINT ERW SPA AAV AOT M CPN MBK
    • กลุ่ม Bottom out (ซื้อเมื่ออ่อนตัว) SCC SCGP JMT MTC TIDLOR EA
    • China reopening TOP PTTGC PSL TASCO SPCG

Fund flow rotation…เราแนะนำ switch จากกลุ่ม IT มาสู่กลุ่ม China reopening

เคาะไป คุยไป GLOBAL

  • แนวโน้ม 4Q65 คาดว่า SSSG เนื่องจากได้รับผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมในสาขาภาคอีสาน แต่ในเดือนพ.ย. เริ่มกลับมาให้บริการ แต่ยอดขายก็ยังไม่กลับมา 100% แต่ภาพรวมยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวได้เต็มที่ตั้งแต่ ธ.ค. 65-1Q66 จากเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ และได้อานิสงส์จากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม ขณะที่แนวโน้ม GPM จะกลับมาที่ระดับเดิมจากราคาเหล็กโลกปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนค่าขนส่งที่ชะลอตัว
  • ด้านแนวโน้มปี 66 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 20% จากการขยายสาขาใหม่อีก 4 สาขา ส่งผลทำให้ในปีหน้าจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 25 สาขา มีงบลงทุนไว้ที่ 2,000-2,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสาขาใหม่ เชิงกลยุทธ์ ราคาซื้อขายอยู่บน PE เท่ากับ 33.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ระดับ 30 เท่า แต่เรามองว่าเหมาะสม เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตรายได้ในปี 66 ค่อนข้างโดดเด่นกว่า
  • ในเชิงกลยุทธ์ ราคา underperform SET Index กว่า 10.5% จากความกังวลด้านผลประกอบการที่ยังได้รับผลกระทบจากช่วงน้ำท่วมในต้น 4Q65 รวมถึงต้นทุนด้านพลังงานและเหล็กที่อยู่ในระดับสูง แต่ทั้งนี้มองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เป็นจังหวะสะสม

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบจากจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทรายใหญ่

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสเปน ทำให้นักลงทุนวิตกว่าบรรดาธนาคารกลางรายใหญ่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลที่ว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลดอลลาร์ และแรงขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

- Advertisement -