บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
CP All (CPALL TB) ร้านเซเว่นฯ ยังคงโดดเด่น
ยังเติบโตแข็งแกร่ง แม้ปรับลดประมาณการ แนะนำ ซื้อ
เราแนะนำ ซื้อ CPALL จากแนวโน้มการเติบโตโดดเด่นของธุรกิจร้านเซเว่นฯ รวมทั้งผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของแม็คโคร และการฟื้นตัวของโลตัส ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในประเทศไทยที่ได้ผลบวกโดยตรงจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว คาดการณ์กำไร 4Q65 เติบโตดี QoQ, YoY เป็นระดับสูงสุดของปี แม้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-67 ลง 15% และ 9% สะท้อนค่าใช้จ่ายและค่าไฟสูงขึ้น แต่คาดว่ากำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง 21% ในปี 66 และ 23% ในปี 67 ราคาเป้าหมาย (DCF) 79 บาท (WACC 7.3% และ G. 3%) จากการ Rollover มาเป็นปีนี้
ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นใน 4Q65
เราคาด SSSG ร้านเซเว่นฯ 4Q65 ที่ +12% (จาก +1.3% ใน 4Q64 และ +22.1% ใน 3Q65) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของทั้งยอดซื้อต่อใบเสร็จ และจำนวนลูกค้าเข้าร้านจากการบริโภคฟื้นตัว และมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น จำนวนร้านเซเว่นฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700 สาขา YoY เป็น 13,834 สาขา ประกอบกับยอดขายของแม็คโครและโลตัสเพิ่มขึ้น จากการมี SSSG 8.5% และ 1% ตามลำดับ ส่งผลให้คาดว่ายอดขายรวมของ CPALL ใน 4Q65 เพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 21% YoY เป็น 2.17 แสนล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าเพิ่มขึ้น 50 bps YoY เป็น 22% โดยที่อัตรากำไรของร้านเซเว่นฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจ ากการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้า และเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง
คาดกำไรปกติ 4Q65 เติบโตทั้ง QoQ, YoY เป็นจุดสูงสุดของปี
ค่าใช้จ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% YoY จากค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ค่าไฟปรับเพิ่มขึ้น และรับรู้ค่าใช้จ่ายของโลตัส ดอกเบี้ยจ่ายคาดจะเพิ่มขึ้น 22% YoY ตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโลตัสที่สูงขึ้น เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 4.11 พันล้านบาท ลดลง 39% YOY เนื่องจากมีกำไรพิเศษจากการแลกหุ้น MAKRO ในปี 64 อย่างไรก็ดี กำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ และ 75% YoY โดยคาดกำไรปกติปี 2565 เพิ่มขึ้น 75% YoY
แนวโน้มปี 2566 ร้านเซเว่นฯ ดีต่อเนื่อง หนุนด้วยแม็คโครและโลตัส
แนวโน้มการบริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง การเลือกตั้งและจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คาดว่าจะผลักดันให้ SSSG ของร้านเซเว่นฯ อยู่ในเกณฑ์ดีที่ +5% โดยมีทั้งจำนวนลูกค้าเข้าร้าน และยอดซื้อต่อใบเสร็จเพิ่มขึ้น มีการเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นมีทิศทางขาขึ้น จากการขายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและ Personal care เพิ่มขึ้น (เป็นกลุ่มที่อัตรากำไรสูง) จากการที่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้ผลบวกเต็มปีจากการปรับราคาสินค้า ขณะที่กำไรของแม็คโครยังคงแข็งแกร่งจากกลุ่มลูกค้า HORECA เพิ่มขึ้น ส่วนโลตัสคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากการรีแบรนด์เสร็จสิ้นและทยอยรีไฟแนนซ์