บล.บัวหลวง:

Carabao Group (CBG TB /CBG.BK)

CBG – เล่นตามการฟื้นตัว

เรายังคงชอบ CBG จากการฟื้นตัวของรายได้ หนุนโดยการเติบโตของรายได้ และการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น   แม้ต้นทุนที่สูงขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยงหลัก แต่เรามองว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้วในปี 2565 เราชอบ CBG มากกว่า OSP เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและชัดเจนกว่า

คาดกําไรเติบโต 17% ในปี 2566

เราแนะนำซื้อ CBG อิงจากการเติบโตของกำไร 17% YoY ในปี 2023 ซึ่งหนุนโดยปัจจัยดังนี้: 1) การเติบโตของรายได้ 10% YoY หนุนโดยการส่งออกและธุรกิจการจัดจําหน่าย 2) อัตรากำไรจากธุรกิจเครื่องดื่มขยายตัวจาก 39.0% ในปี 2565 เป็น 40.5% ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 12% YoY 3) การจัดจําหน่ายให้กับเบียร์แบรนด์ใหม่ (เปิดตัวในไตรมาส 4/66) และ 4) CBG มีแผนผลิตขวดแก้วส่งให้เบียร์แบรนด์ใหม่ หนุนอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานผลิตขวดแก้วให้ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ หุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 37 เก่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2557-2565 ที่ 38 เท่าเล็กน้อย

รายได้ในปี 2566 หนุนจากธุรกิจส่งออกและจัดจําหน่าย

เราคาดการเติบโตของการส่งออก (คิดเป็น 35% ของประมาณการยอดขายในปี 2566) ในเกือบทุกตลาด ยกเว้นเมียนมาร์ (สงครามกลางเมือง) โดยประเทศเวียดนามเป็นตลาดส่งออกใหม่ที่กำลังเติบโต โดย CBG แต่งตั้งผู้จัด จําหน่ายรายใหม่ที่นั่น สําหรับธุรกิจการจัดจำหน่ายในประเทศไทย (คิดเป็น 29% ของประมาณการยอดขายปี 2566) คาดรายงานรายได้เติบโต 20% YoY หนุนจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณการจัดจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นทั่วประเทศ นอกจากนี้ CBG จะเป็นผู้จัดจําหน่ายหลักของแบรนด์เบียร์ใหม่ที่จะเปิดตัวโดยบริษัทของคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ (ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมของ CBG) เป็นเจ้าของแบรนด์เบียร์จะเปิดตัวใน ไตรมาส 4/66 โดยเบื้องต้นเราคาดว่ารายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายจะเพิ่มขึ้น 2% ในปี 2567

มาร์จิ้นจะขยายตัวในปี 2566

แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบในปี 2566 นั้นหลากหลาย โดยแบ่งเป็นต้นทุนบรรจุภัณฑ์ (ส่วนใหญ่ อะลูมิเนียม และก๊าซธรรมชาติ) ปรับตัวลดลง แต่ราคาไฟฟ้า น้ำตาล และส่วนผสมอื่นมีแนวโน้มสูงขึ้น เรายังคงคาดว่าผลคืออัตรากําไร ขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (แม้ว่าจะไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้) อัตรากำไรจากธุรกิจเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นจาก 39.0% ในปี 2565 ไปเป็น 40.5% ในปี 2566 ธุรกิจ OEM และธุรกิจจัดจําหน่ายจะรายงานอัตรากําไรที่น้อยลง ดังนั้น ประมาณการอัตราค่าไรขั้นต้นในปี 2566 โดยรวมของเราคือ 29.5% เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 29.0% ในปี 2565

กําไรไตรมาส 4/65 จะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ

เราประมาณการกำไรไตรมาส 4/65 ของ CBG ที่ 507 ล้านบาท ลดลง 17% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ การปรับตัวลงของกำไร YoY เกิดจากอัตรากําไรที่ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น YoY สําหรับกำาไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็น เพราะรายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายที่สูงขึ้น (เราคาดว่ายอดขายเครื่องดื่มในประเทศ และการส่งออกที่ลดลง QoQ ในไตรมาส 4/65)

 

- Advertisement -