บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Chularat Hospital (CHG TB) คาดกำไร 4Q65 ฟื้นตัว QoQ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมาย 4.40 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” CHG และคงราคาเป้าหมายที่ 4.40 บาท ประเมินกำไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 404 ล้านบาท (+56% QoQ และ -76% YoY) จะประกาศผลประกอบการวันที่ 4 ก.พ. เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ ผลจากฐานต่ำในไตรมาส 3/65 เนื่องจาก 1) โบนัสครั้งเดียว 80 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 และ 2) การตัดจำหน่ายวัคซีนหมดอายุในไตรมาส 3/65 ไม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้จนกว่าจะถึงไตรมาส 4/65 (ผลกระทบทางภาษี 20 ล้านบาท) นอกจากนี้ อาจมีรายได้เพิ่มเติมจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่ที่ 50 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณปี 2564 ยังไม่ได้ใช้ อย่างไรก็ตาม เราปรับลดคาดการณ์กำไรหลักปี 65 ลง -2% เหลือ 2.9 พันล้านบาท โดยการลด EBITDA margin ลง 0.7 ppt เป็น 39.5% เนื่องจากรายได้จากโควิดที่ทำกำไรได้ลดลงเร็วกว่าที่คาดเหลือเพียง 1-2% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 4/65 ส่วนประมาณการกำไรหลักตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป เรายังคงไม่เปลี่ยนแปลงราคาเป้าหมายคงเดิมที่ 4.40 บาท
รายได้ 4Q65 ลดลง QoQ เนื่องจากผลของฤดูกาล
เราคาดว่ารายได้จะลดลง 4% QoQ และ 50% YoY มาอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เป็นผลจากการขาดรายได้จากโควิด (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15% ในไตรมาส 3/65) รวมถึงผลของฤดูกาลด้วย หากไม่รวมรายได้จากโควิด เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 12% YoY ในไตรมาสนี้ สำหรับปี 66 เราคาดว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ส่งผลให้ขาดรายได้จากโควิดตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่กำไรหลักอาจลดลง 52% เหลือ 2.9 พันล้านบาทในปี 66
แนวโน้มระยะยาวเติบโตดี เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ EEC
โรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งของ CHG อยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศไทย เนื่องจากพื้นที่ EEC มีประชากรหนาแน่นและมีรายได้สูง ทำให้โรงพยาบาลของ CHG สามารถรับผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการได้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นสมาชิกประกันสังคม คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% ของ CHG นอกจากนี้ เรายังชอบที่ CHG ขยายกิจการได้ดี โดยเพิ่มความจุเตียงให้มากขึ้น 66% ในช่วงปี 66-69 ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงพยาบาลที่มีอยู่ ดังนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบในแง่ค่าเสื่อมราคา
ความเสี่ยงที่สำคัญคือภาวะเศรษฐกิจซบเซา

เราใช้วิธี DCF, 7.27 WACC และการเติบโต 3.2% ในการประเมินราคาหุ้น เราเลือก CHG เป็นหุ้นเด่นของเรา  เนื่องจากเป็นผู้นำในพื้นที่ EEC ที่กำลังเติบโต พร้อมทั้งยังมุ่งเน้นไปที่รักษาโรคที่มีความซับซ้อนสูงในราคาปานกลาง  ซึ่งน่าจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุดจากสังคมสูงวัยของประเทศไทย

ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ สภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและจำนวนสมาชิกประกันสังคม

- Advertisement -