Daily Focus: Selective and Earnings Play

2023SET Target : 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้อ่อนแอกว่าที่คาด ปรับตัวบวกได้ในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบเกือบตลอดทั้งวัน และมีแรงขายออกมากดดันช่วงปลาย ทำให้ดัชนีปิดลบเล็กน้อย 3.17 จุด ณ สิ้นวัน โดยตอบรับความคาดหวังต่อการประชุม FED ล่วงหน้าไปแล้วมากพอสมควร สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสูง 2.7 พันลบ. (และ Short Index Futures 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,675-1,690 จุด หลังจากตอบรับกับผลการประชุม และถ้อยแถลงของประธาน FED ไปแล้ว ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดว่ายังถ่วงตลาดต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันดิบที่ยังพักตัวลง ขณะที่หุ้น Tech และ Growth แม้ยังได้ Sentiment บวกจากการปรับตัวขึ้นแรงของ NASDAQ โดยคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. 23 โดยตลาดคาดชะลอเหลือ 1.85 แสนตำแหน่ง ชะลอจากเดือนก่อนที่ 2.23 แสนตำแหน่ง ส่วนค่าจ้างแรงงานคาด +0.3% m-m, +4.3% y-y ชะลอตัวลงเช่นกัน โดยรวมเรายังมองกลุ่ม Anti-Commodity และ Consumption Play จะยังขยับตัวได้ดีกว่าตลาดในระยะนี้ รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะประกาศกำไร 4Q22 แข็งแกร่ง ซึ่งจะประกาศหนาแน่นขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงติดตามพัฒนาการทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นโอกาสยุบสภา หากมีจังหวะอ่อนตัวของดัชนียังมองเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22 แข็งแรง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้น 4Q22 แข็งแกร่ง // ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว  

หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE

หุ้นเด่นวันนี้ : MTC

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 42.76 บาท

• ตลาดคาดกำไร 4Q22 ราว 1.25 พันลบ. +3% q-q, +13% y-y ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากยังถูกกดดันจากการตั้งสำรองที่ยังสูงจากทิศทาง NPL ที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม ฝั่งรายได้คาดยังเติบโตที่ดี +6% q-q, +18% y-y สะท้อนความต้องการสินเชื่อที่ยังสูง

• ตลาดคาดกำไรปี 2022 +5% y-y และจะเร่งขึ้นในปี 2023 +12% y-y โดยการเติบโตคาดว่าจะเร่งขึ้นใน 2H23 เป็นหลักจากสำรองที่คาดว่าจะทยอยลดลงหลังผ่านช่วงที่ตั้งสำรองสูง ใน 2H22-1H23 และจะเริ่มเห็นผลบวกต่อกำไรจากรายได้ที่โตดีในช่วงที่ผ่านมา

• แนวรับ 38-37.50 บาท แนวต้าน 41.50//44 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเร่งขึ้นเป็น US$1,398 ล้าน แต่ยังกระจุกตัวที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ US$851 ล้าน และ US$626 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน แต่ค่อนไปในทิศทางไหลออกนำโดยไทย US$81 ล้าน ซึ่งเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดในปีก่อน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลเข้าหลังตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุม FED ไปแล้วมากพอสมควร ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) JWD เราคาดกำไร 4Q22 สดใส 130 ลบ. +10% q-q แต่ -2% y-y จากฐานสูงใน 4Q21 ธุรกิจ Automotive น่าจะเป็นพระเอกในไตรมาสนี้ จากการได้งานขนส่ง-รับฝากรถ EV และมีโอกาสได้รับงานแบรนด์รถอื่นในอนาคต สําหรับส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมที่เคยโดดเด่นใน 4Q21-2Q22 จากธุรกิจขนส่งทางเรือของบ.ร่วมในเวียดนาม คาดชะลอลงใกล้เคียง 3Q22 ภาพรวมทั้งปี 2022 คาดรายได้ +16% y-y และกำไรปกติ +15% y-y แม้จะโตชะลอจากปีก่อน แต่ยังเป็นระดับที่สูง การควบรวมกิจการกับ SCGL ยังเป็นไปตามแผน การแลกหุ้นอยู่ใน เดือน ก.พ. ปัจจุบันมี EV/EBITDA เพียง 16 เท่า และต่ำกว่าต้นทุนการแลกหุ้นของ SCC ที่ 24.02 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท

(0) PLANB คาดกำไรปกติ 4Q22 ที่ 207 ลบ. +19% q-q, +107% y-y ดีที่สุดในรอบ 2 ปี หนุนจากรายได้สื่อนอกบ้านที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งตามการ Reopening เต็มที่ หนุนรายได้ฟื้นตัวแรง ขณะที่ฝั่งต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ ทำให้ Margin ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้ม 1Q23 อาจชะลอความร้อนแรงเนื่องจากเป็น Low Season ของโฆษณา แต่ภาพรวมปี 2023 เรายังมองบวกต่อกลุ่มสื้อนอกบ้านมากกว่า TV เราคาดปี 2022 พลิกมีกำไรปกติ 632 ลบ. และ เพิ่มขึ้นเป็น 851 ลบ. +35% y-y ในปี 2023 ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงและทำให้ Upside จำกัด เทียบกับราคาเป้าหมาย 9 บาท จึงลดคำแนะน่าเป็น “ถือ”

(+) SYNEX เราคาดกำไรปกติ 4Q22 สูงสุดของปีที่ 197 ลบ. +5% q-q, +2% y-y หนุนจาก High Season ของการขายสินค้า IT อย่างไรก็ตาม การเติบโตไม่ได้สูงอย่างช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก iPhone มีปัญหาขาดตลาด Gross Margin ที่ชะลอ และส่วนแบ่งกำไรจาก NCAP ที่ลดลงจากการตรึงเพดานดอกเบี้ยมอเตอร์ไซค์ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2023 คาดสดใสขึ้นจากปัญหา Supply Chain ต่างๆ ที่คลี่คลาย และทั้งภาครัฐและเอกชนกลับมาเดินหน้าลงทุน IT Infrastructure เร่งขึ้น เราคาดกำไรปี 2022 Flat y-y และ +14% y-y ในปี 2023 ประเมินราคาเป้าหมาย 20 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(0) ตลาดดาวโจนส์ ลดลงเล็กน้อย 39.02 จุด หรือ -0.11% ปิดที่ 34,053.94 จุด ถูกกดดันจากการปรับลงของหุ้นบริษัทเฮลธ์แคร์

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากนักลงทุนคาดหวังว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอลงในระยะถัดไป ขณะที่ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาด

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม จากตลาด Nasdaq ปิดบวกจากผลประกอบการของ META ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ตลาด Downjone ปิดลบ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 33.07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 75.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตที่ซบเซาของสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 76.00 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.16%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,930.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 1,930.0 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.04%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 920.24 / +1.74

- Advertisement -