บล.บัวหลวง:

Energy – โรงกลั่นจะเป็นผู้นำในด้านของกำไร (NEUTRAL)

กำไรหลักไตรมาส 4/65 ของกลุ่มพลังงานที่เราให้คำแนะนำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น YoY นำโดยบริษัทในกลุ่มโรงกลั่น, BANPU, และ PTTEP กลุ่มโรงกลั่นน่าจะรายงานกำไรหลักที่เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/66 ทั้งนี้เราชอบ PTTEP และ TOP มากที่สุด แต่เราปรับลดคำแนะนำต่อ BANPU ลงมาเป็น “ถือ”

คาดกำไรหลักรวมจะขยายตัว YoY ในไตรมาส 4/65

เราคาด 8 บริษัทในกลุ่มพลังงานที่เราให้คำแนะนำจะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 5% YoY แต่ปรับตัวขึ้น 12% QoQ และรายงานกำไรหลักอยู่ที่ 8.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 36% YoY แต่ลดลง 25% QoQ คาดการณ์ขาดทุนพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการขาดทุนจากสินค้าคงคลัง (เทียบกับกำไรพิเศษในไตรมาส 4/64 จำนวนมาก) จะเป็นปัจจัยหลักกดดันกำไรสุทธิให้ปรับลดลง YoY ในขณะที่ผลขาดทุนพิเศษที่ลดลงจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรสุทธิให้เติบโต QoQ โดยรวมผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

ในกลุ่มพลังงานที่เราให้คำแนะนำ เราคาดว่าบริษัทส่วนใหญ่จะรายงานกำไรหลักที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง YoY หนุนโดยราคาพลังงานและมาร์จิ้นที่สูงขึ้น TOP น่าจะรายงานการเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่งที่สุด YoY (จากค่าการกลั่นที่ขยายตัว) ตามด้วย BANPU (กำไรที่สูงขึ้นจากธุรกิจถ่านหินและก๊าซ) และ PTTEP (ปริมาณขายและราคาขายที่สูงขึ้น) ในด้านของ QoQ บริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะรายงานกำไรหลักที่อ่อนตัวลง QoQ นำโดย BCP และ SPRC แต่ PTTEP และ TOP เป็นสองบริษัทที่ยังคงมีแนวโน้มที่จะรายงานกำไรหลักที่เติบโต QoQ ในขณะที่ IRPC และ OR คาดว่าจะรายงานขาดทุนหลักในไตรมาส 4/65

คาดกำไรหลักรวมไตรมาส 1/66 จะเติบโต YoY ต่อเนื่อง

การเปิดประเทศจีนมีแนวโน้มที่จะหนุนอุปสงค์ต่อการใช้พลังงานโดยรวมในไตรมาส 1/66 นอกจากนี้ โดยปกติไตรมาสแรกจะเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม, ถ่านหิน, และก๊าซธรรมชาติ (หน้าหนาว) ใน ด้านของอุปทาน ผลผลิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคาดว่าจะยังคงตึงตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นในไตรมาส 1/66 อย่างไรก็ตาม ราคาถ่านหินคาดว่าจะปรับตัวลดลง QoQ ในไตรมาส 1/66 เนื่องจากปัญหาอุปทานตึงตัวที่คลี่คลาย จากแนวโน้มดังกล่าว เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 1/66 ของบริษัทในกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ที่เราให้คำแนะนำจะเติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/66 นำโดยบริษัทในกลุ่ม โรงกลั่นที่ได้รับผลบวกจากอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่มากขึ้น และค่าการกลั่นที่ขยายตัว อย่างไรก็ตาม BANPU (กำไรที่ลดลงจากธุรกิจถ่านหินและก๊าซ [ราคาขายที่ลดลง]) และ PTTEP (ปริมาณขายและราคาขายที่ลดลง) คาดว่าจะเป็นเพียง 2 บริษัทที่รายงานกำไรหลักอ่อนตัวลง QoQ ในไตรมาส 1/66

มูลค่าหุ้นยังคงน่าสนใจ

มูลค่าหุ้นในปัจจุบัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ PBV) ของหุ้นกลุ่มพลังงานของไทย ซึ่งซื้อขายอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด และค่าเฉลี่ยระยะยาวยังคงน่าสนใจ และเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี ภาพแนวโน้มที่ดีขึ้นน่าจะหนุนให้มูลค่าหุ้นปรับตัวขึ้น เราชอบ PTTEP และ TOP มากที่สุด เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่นของถ่านหินและก๊าซกำลังจะมาถึง เราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนต่อกำไรและราคาหุ้นของ BANPU ในระยะสั้น ดังนั้นเราจึงปรับลดคำแนะนำต่อ BANPU ลงมาเป็น “ถือ” จาก “ซื้อเก็งกำไร”

- Advertisement -