บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +11.0%

Close Feb 2, 2023 Price (THB) 56.75

12M Target (THB) 63.00

Previous Target (THB) 51.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 623 ล้านบาท (-2.2% QoQ, -3.6% YoY) กำไรทรงตัว QoQ แม้เราคาดยอดขายอ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่ชดเชยด้วย GPM ที่ดีขึ้น
  • แนวโน้ม 1Q66 เราคาดผลประกอบการจะถูกกดค้นหลักๆ จาก GPM เพราะค่าเงินบาท/USD ที่แข็งค่า และราคาต้นทุนทองแดงที่ปรับขึ้น

Our view

  • เราคงประมาณการปี 2565-66 และคำแนะนำ TRADING แต่ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ขึ้นเป็น 63.00 บาทต่อหุ้น อิง PER 31x
  • แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นเด่น 14% ในช่วง 5 วันทําการ แต่ราคาปัจจุบันยังซื้อขายบนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี หุ้นมีโอกาสไปต่อ และยืนบนระดับพรีเมี่ยมได้ หากเศรษฐกิจโลกไม่เกิด Recession รุนแรงอย่างที่ตลาดกําลังคาดหวัง

KCE ELECTRONICS ผลประกอบการอาจไม่เด่น แต่ตลาดกำลังปรับ PE-Band ขึ้น

คาด 4Q65 กำไรปกติไม่เด่น ทรงตัว QoQ และ YoY

คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 623 ล้านบาท (-2.2% QoQ, -3.6% YoY) กำไรทรงตัว QoQ แม้เราคาดยอดขาย อ่อนตัวลง แต่ชดเชยด้วย GPM ที่ดีขึ้นจากผลบวกของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) คาดรายได้หลักอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท (-2.4% QoQ, +7.8% YoY) จากคาดยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวที่ 125 ล้านเหรียญ (-2.2% QoQ, -1.1% YoY)

2) อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 24.8% (+52bps QoQ, -50bps YoY) GPM คาดดีขึ้น QoQ เป็นผลบวกของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง เริ่มเห็นผลมากขึ้นใน 4Q65

และ 3) SG&A คาดที่ 511 ล้านบาท (-23% QoQ, +27.5% YoY) SG&A to sales คาดที่ 11.3% ใกล้เคียง 3Q65

หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงคาดการณ์ทั้งปี 2565 ของเรา เราคาดปันผล 2H65 ที่ 0.83 บาทต่อหุ้น คิดเป็น yield ที่ 1.5%

คาดผลประกอบการ 1Q66 จะเริ่มถูกกดดัน…ต้องระวังการปรับลดประมาณการ

แนวโน้ม 1Q66 เราคาดยอดขายทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อย QoQ หนุนจากยอดขายตลาดจีนที่มีโอกาสกลับมาเติบโตหลังเปิดประเทศ อย่างไรก็ดี KCE จะเริ่มเห็นแรงกดดันในแง่ GPM จาก 1) ค่าเงินบาท/ USD ที่แข็งค่าขึ้นราว 8.3% (ค่าเฉลี่ยม.ค.66 เทียบกับ 4Q65) และ 2) ราคาทองแดงเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลาย 4Q65 เมื่อประกอบกับราคาขายเฉลี่ย (ASP) ในปี 2566 ถึง Guidance บริษัทที่คาดอาจต้องปรับลง 1-2% YoY ทำให้มีโอกาสสูงที่ตลาดจะต้องปรับประมาณการลง อย่างไรก็ดี ประมาณการปี 2566 ของเราที่กำไรปกติ 2.4 พันล้านบาท (+0.3% YoY) ทำบนสมมติฐานคาดยอดขายสกุลเงิน USD เติบโต 2% YoY และ GPM ที่ระดับ 24% เป็นสมมติฐานที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมต่ำกว่า Guidance ของบริษัทฯ และกำไรปกติต่ำกว่าที่ตลาดคาดราว 12% ทำให้ Downside บนประมาณการของเราค่อนข้างจำกัด

แต่แรงกดดันจากปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลาย…ตลาดเริ่มปรับ PE-Band ขึ้น

ในแง่ PE-BAND KCE ถูกปรับลดจากระดับ +2SD ลงเป็น -1SD ในช่วงปี 2565 จากแรงกดดันของการขึ้นดอกเบี้ย และความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นในยุโรปที่เป็นสัดส่วนรายได้กว่า 50% ของ KCE ได้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันความเสี่ยงมหภาคเริ่มผ่อนคลายลง จากราคาพลังงานที่ลดลง คาดช่วยบรรเทาความรุนแรงของเศรษฐกิจถดถอยที่มีโอกาสเกิดขึ้น ทำให้เราปรับ PE Multiple จากเดิมที่ให้ไว้ระดับ -0.25 SD ขึ้นเป็น +0.5SD แม้ในระยะสั้นการเก็งกำไรจากผลประกอบการอาจไม่มีสีสันมากนัก แต่ในระยะยาวช่วง 1-2 ปี KCE จะมีประเด็นบวกจากการขยายกำลังการผลิตขนาดใหญ่ในช่วง 2H67 บวกกับความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง หุ้นมีโอกาสกลับมา ซื้อ ขาย สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตได้ไม่ยาก

คงคำแนะนำ “TRADING” แต่ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 63.00 บาท

เราคงประมาณการและคงคำแนะนำ “TRADING” แต่ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 63.00 บาท ต่อหุ้น จากการปรับ PER ขึ้นเป็น 31x (+0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเด่น แต่ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อ ขาย บน PER66 ที่ราว 27x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เรามองว่าหุ้นยังมีโอกาสไปต่อได้จากการที่ตลาดปรับเพิ่ม PE-BAND ขึ้น สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ราคาทองแดง 3) การขึ้นสายการผลิตโดยเฉพาะโรงงานที่โรจนะทำได้ล่าช้ากว่าคาด และ 4) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง โดยเฉพาะในตลาดยุโรป

 

- Advertisement -