บล.บัวหลวง:

Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB / KSL.BK)

KSL – เอลนีโญ่ที่แรงขึ้น—ธีมการลงทุนช่วงครึ่งหลังปี 2566 ต่อเนื่องไปยังปี 2567

เนื่องจากราคานํ้าตาลโลกมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโอกาสของการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้น KSL ก็เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคานํ้าตาลโลก เราจึงเห็นเป็นโอกาสสําหรับการเข้า “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น KSL ภายใต้สมมติฐานว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ่เริ่มที่จะเห็นเป็นรูปธรรมจริงในช่วงครึ่งหลัง ปี 2566 และต่อเนื่องไปยังปี 2567

โอกาสเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปี 2566 – อากาศที่แห้ง มากขึ้นและฝนที่ตกน้อยลง

อ้างอิงจากรายงานการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่/ลานีญ่า (ENSO) ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โอกาสของการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 0% ในไตรมาส 4/65-1/66 ไปเป็น 16% ในไตรมาส 2/66 และ 46% ในไตรมาส 3/66 และในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค. 2566 ปรากฏการณ์เอลนีโญ่จะครอบงำสภาพอากาศโดยรวมด้วยโอกาสการเกิดที่มากถึง 51% ตามมาด้วยโอกาสการเกิดปรากฏการณ์ภาวะที่เป็นกลาง (38%) และโอกาสการเกิดปรากฏการณ์ลานีญ่า (11%) หรืออาจกล่าวได้ว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ่มีแนวโน้มแรงขึ้นเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค. 2566 ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากปรากฏการณ์ลานีญ่าที่ติดต่อกัน 3 ปี (ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2563 ไปจนถึงไตรมาส 1/66) ไปเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ่ (ซึ่งเริ่มตั้งแต่ครึ่งหลัง ของปี 2566 เป็นต้นไป) โดยทั่วไป สภาพภูมิอากาศจะพลิกกลับจากช่วง 3 ปี ก่อนหน้าที่มีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าค่าเฉลี่ยไปเป็นสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งมากขึ้น และโอกาสของการเกิดคลื่นความร้อนและภาวะภัยแล้งที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรากฏการณ์เอลนีโญ่จะส่งผลให้สภาพอากาศแห้งแล้งมากขึ้น คลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ และการขาดแคลนอุปทานสินค้าเกษตรโภคภัณฑ์ในประเทศอินเดีย ประเทศในทวีปเอเชียใต้ และประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก (ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย)

ราคานํ้าตาลโลกมีความสัมพันธ์โดยตรงในระดับสูงกับปรากฏการณ์เอลนีโญ่ และราคาหุ้น KSL

เนื่องจากอ้อยส่วนมากที่ปลูกทั่วโลกยังจะมาจากประเทศอินเดีย (คิดเป็น 19.5% ของผลผลิตน้ำตาลของทั้งโลก) ประเทศไทย (5.7%) ประเทศออสเตรเลีย (2.4%) ประเทศอินโดนีเซีย (1.3%) ประเทศเปรู (0.7%) นอกเหนือจากประเทศบราซิล (20.8%) ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศไปเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ่ (ถ้าหากเกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ต่อเนื่องไปยังปี 2567) มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้อุปทานอ้อยและน้ำตาลตึงตัวมากขึ้นในช่วงปี 2567 และต่อเนื่องไปในปี 2568 จากประเทศในแถบเอเชียใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิก เราได้ทำการติดตามปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่มีความรุนแรงมาก (หรือเรียกปรากฏการณ์ “ซุปเปอร์เอลนีโญ่”) ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2558 ต่อเนื่องไปถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ซึ่งดัชนีวัดความแรงของปรากฏการณ์เอลนีโญ่หรือลานีญ่า (ONI) เพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 2.6 ในช่วงเดือนพ.ย. 2558-ม.ค. 2559 และราคาน้ำตาลโลกพุ่งขึ้นแรงมากถึง 129% ภายในระยะเวลา 1 ปี (จาก 10.39 เซนต์/ปอนด์ในวันที่ 24 ส.ค. 2558 ไปแตะจุดสูงสุดที่ 23.81 เซนต์/ปอนด์ในวันที่ 5 ต.ค. 2559) และราคาหุ้น KSL ก็ปรับตัวขึ้นแรงเช่นกันจากจุดต่ำสุดที่ 3.16 บาท/หุ้น (25-26 ส.ค. 2558) ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 7.2 บาท/หุ้น (14-15 ก.พ. 2560) หรือเพิ่มขึ้น 128% ภายในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ราคาหุ้น KSL มีความสัมพันธ์ในระดับที่สูงมากกับราคาน้ำตาลโลกที่เป็นราคาฟิวเจอร์ แต่กลับไม่ได้สัมพันธ์กับผลประกอบการของ KSL ที่รายงานกำไรรายไตรมาสแต่อย่างใด ราคาหุ้น KSL ที่ปรับตัวขึ้นแรงในครั้งก่อนหน้า ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ไม่ได้สนใจถึงผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้น จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่จะส่งผลให้วอลุ่มอ้อยและวอลุ่มขายนํ้าตาลของ KSL ปรับตัวลดลงเนื่องจากภัยแล้งของประเทศไทยแต่อย่างใด แต่กลับไปให้ความสําคัญกับราคาน้ำตาลโลกที่พุ่งขึ้นแรงเพียงแค่ปัจจัยเดียว ซึ่งนักลงทุนและตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าปัจจัยเรื่องราคาน้ำตาลโลกที่พุ่งแรงจะสามารถกลบผลกระทบทางลบของวอลุ่มขายน้ำตาลที่ลดลงได้

ราคาน้ำตาลทำสถิติแตะจุดสูงสุดในรอบ 6 ปี

ราคาน้ำตาลโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 21.76 เซนต์/ปอนด์ ในวันที่ 31 ม.ค. 2566 (เทียบกับจุดสูงสุดในช่วงก่อนหน้าที่ 23.81 เซนต์/ปอนด์ในวันที่ 5 ต.ค. 2559 และ 26.5 เซนต์/ปอนด์ในวันที่ 27 ก.พ. 2555 และสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยมีมาที่ 35.31 เซนต์/ปอนด์ในวันที่ 2 ก.พ. 2554) ราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวขึ้นแรงในครั้งล่าสุดเนื่องจากการคาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลของประเทศอินเดีย สําหรับปี 2565/66 ที่มีแนวโน้มออกมาต่ำกว่าคาดซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 34.3 ล้านตัน หรือลดลง 4.5% YoY เนื่องจากผลผลิตอ้อยที่ลดลงต่ำกว่าคาดของรัฐมหาราษฏระ ส่งผลให้คาดการณ์ว่าเป้าส่งออกน้ำตาลของประเทศอินเดียสําหรับปี 2565/66 มีแนวโน้มต่ำกว่า 6 ล้านตัน

 

- Advertisement -