Our View? “พักฐานต่อไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,680 11,675 และแนวต้านที่บริเวณ 1,688 / 1,693 คาดวันนี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับการรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่มีกําหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานของสมาคมเศรษฐกิจวอชิงตัน (Economic Club of Washington) ซึ่งถือเป็นการเสวนาภาพเศรษฐกิจครั้งแรง หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ม.ค. ออกมาที่ระดับ 5.17 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ขณะที่ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 3.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.6% บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งอย่างมาก กระตุ้นความกังวลถึงแนวโน้ม FED อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ว่าตลาดเริ่มกลับไปคาดว่า FED จะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้จุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยกลับไปอยู่ที่ระดับ 5.25% มากกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าหลังประชุม FOMC ในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับทิศทาง Dollar Index ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นล่าสุดอยู่ที่ระดับ 103.6+/- สะท้อนตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะ Risk−off ในระยะสั้นอีกครั้ง คาดจะกระตุ้นแรงขายทำกำไร กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ ก่อนจะสามารถดีดตัวกลับขึ้นได้บ้าง ปิดที่ระดับ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.72 ดอลลาร์ (+0.98%) แม้ยังได้รับแรง กดดันจากการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งคาดกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะกดดัน อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงได้ต่อ อย่างไรก็ดี รายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ความ ต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกจะมาจากการเปิดประเทศของจีน รวมทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงใน ตุรกีและซีเรีย คาดจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันในท่าเรือนีย์ฮานมีปัญหา คาดจะเป็นปัจจัยลดทอนอุปทานน้ำมันใน ระยะสั้นเล็กน้อย หนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ม.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +5.02% YoY ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือน ม.ค. อยู่ที่ระดับ 3.04% YoY ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และคาดว่าในระยะต่อไปอัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 5.00% สะท้อนความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้อที่ดีของไทย มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ดี คาดระยะสั้นตลาดอาจเผชิญแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติตามการกลับมาอ่อนค่าของค่าเงินบาทได้บ้าง หลังดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น โดยล่าสุดค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.6+/- บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าค่อนข้างเร็วจากระดับ 32.6 +/- บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงก่อนหน้า รวมทั้งยังคงแนะนำให้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ต่อเนื่อง คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในช่วงสั้น ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งการที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนประกาศอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวสามารถจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ สําหรับชาวจีนไปประเทศต่างๆ 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย คาดไทยจะเป็นเป้าหมายหลักจากการท่องเที่ยวดังกล่าว ขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จำนวน 5.60 แสนสิทธิ โดยจะสนับสนุนค่าโรงแรม/ที่พัก สูงสุด 3.0 พันบาท/ห้อง สูงสุด 5 สิทธิ/คน คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Re- Opening ได้ต่อ อาทิ AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, CRC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI และ PLANB

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “SYNEX”

กลยุทธ์ แนวรับ 16.90 / 16.40 Target 18.80 / 20.00 Stop <15.90

 

- Advertisement -