บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Plan B Media (PLANB.BK/PLANB TB)
ประมาณการ 4Q65F : กำไรจากธุรกิจหลักจะโตโดดเด่น
Event
ประมาณการ 4Q65F
Impact
คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ PLANB ใน 4Q65F จะอยู่ที่ 202 ล้านบาท (+74% YoY, +16% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) รายได้เพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจสื่อนอกบ้าน (OOH) และธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (engagement marketing) และ ii) margin เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ถ้าหากกำไรใน 4Q65F เป็นไปตามที่เราคาดไว้จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2565F อยู่ที่ 664 ล้านบาท (+937% YoY)
เราคาดว่ารายได้ของ PLANB จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.0 พันล้านบาท (+42% YoY และ +15% QoQ) ใน 4Q65F เนื่องจาก i) เราคาดว่ารายได้ของธุรกิจสื่อ OOH เพิ่มขึ้น 50% YoY และ 11% QoQ เพราะ utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 70% ใน 4Q65F (จาก 54% ใน 4Q64 และ 62% ใน 3Q65) เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อ OOH เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 21% QoQ ใน 4Q65 และ ii) รายได้จากธุรกิจ engagement marketing เพิ่มขึ้น 103% YoY และ 18% QoQ ใน 4Q65F เพราะมีการดำเนินกิจกรรมทางกีฬามากขึ้น และรายได้จากการบริหารศิลปินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น เราจึงคาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้นเป็น 27.7% ใน 4Q65F (จาก 25.8% ใน 4Q64 และ 26.3% ใน 3Q65) แต่ยังต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ที่ 12.7% ใน 4Q65F จาก 13.5% ใน 4Q64 และ 11.2% ใน 3Q65
โมเมนตัมของเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อ OOH ค่อนข้างดี
ยอดโฆษณาสื่อ OOH มีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ที่สถานการณ์ COVID เริ่มทรงตัว ในขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มยอดโฆษณาสื่อ OOH จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2566F จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโมเมนตัมกำไรของ PLANB อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565F/2566F/2567F เล็กน้อย -1%/-2%/+1% เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจสื่อปี 2565F/2566F/2567F +15%/+5%/+4% เนื่องจากเราปรับสมมติฐาน utilization rate +4.5%/+0.3%/+0.2% ii) การปรับเพิ่มประมาณการรายได้จากธุรกิจ engagement marketing ปี 2565F/2566F/2567F ขึ้นอีก 39%/23%/17% iii) การปรับลดสมมติฐาน GPM เหลือ 27.6%/30.6%/31.5% (จาก 30.0%/32.0%/32.5%)
Valuation and action
หลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้ว เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PLANB ในปี 2566F จะอยู่ที่ 905 ล้านบาท (+33% YoY) เนื่องจาก i) รายได้จากธุรกิจสื่อ OOH เพิ่มขึ้น เพราะ utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 64% (จาก 60.6% ในปี 2565F) และ ii) GPM ในปี 2566F เพิ่มขึ้นเป็น 30.6% (จาก 27.6% ในปี 2565F) เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2566 เอาไว้ที่ 8.80 บาท (PE ที่ 42x) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแล้วถึง 41% ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และเหลือ upside จำกัด เราจึงปรับลดคำแนะนำลงจากซื้อเป็นถือ
Risks
ยอดโฆษณาฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้