บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +17.9%

Close Feb 6, 2023 Price (THB) 11.70

12M Target (THB) 13.80

Previous Target (THB) 12.60

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 940 ลบ. หนุนจากการเติบโตของทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเช่าและบริการ
  • ประเมินยอด Presale 4Q65 ทำจุดสูงสุดเป็นชอันดับ 2 ในรอบ 13 ไตรมาส เป็นรองเพียงช่วง 3Q65
  • คาดบริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่คิดเป็นมูลค่าราว 5.0 หมุนลบ. ในปี 2566 เทียบเท่าอัตราการเติบโตกว่า 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน

Our view

  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2566 ขึ้น 16% จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเช่าและบริการ คือ โรงแรม และธุรกิจบริหารโครงการที่มีคาดเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ 
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 13.80 บาท/หุ้น
  • ORI มีจุดเด่นเฉพาะตัว คือ การจ่ายปันผลช่วงครึ่งปีหลัง ที่คิดเป็นราว 80% ของปันผลทั้งปี โดยเราคาดปันผลงวด 2H65 ที่ 0.45 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.8% ช่วยจำกัด Downside risk ระยะสั้น

ORIGIN PROPERTY คาดกำไรปกติทำจุดสูงสุดใหม่ 

คาดกำไร 4Q65 ปกติเติบโตเด่นทั้ง QoQ และYoY เป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัท

เราคาดรายได้และกำไรปกติ 4Q65 ที่ 3.4 พันลบ. (+1.4% QoQ, -8.5% YoY) และ 940 ลบ. (+40.0% QoQ, +55.0% YoY) ตามลำดับ กำไรปกติที่คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY เป็นผลมาจาก (1) การโอน โครงการแนวราบที่แข็งแกร่งคาดที่ 1.4 พันลบ. หนุนจากการจัดโปรโมชั่นเพื่อระบายสินค้าคงคลังในช่วงสิ้นปี (2) การโอนโครงการแนวสูงทั้งของ ORI อาทิ Hampton Sriracha ที่เสร็จใหม่ในช่วง 4Q65 และ Backlog ของโครงการ The Origin Onnut ที่แล้วเสร็จใน 3Q65 รวมถึงการโอน Backlog จากโครงการ JV ขนาดใหญ่จํานวน 2 โครงการ คือ Park Origin Thonlor และ Park Origin Ratchathewi ที่แล้วเสร็จในช่วง 3Q65 และ 4Q65 ตามลำดับ และ (3) รายได้จากการเช่าและบริการคาดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ +59.0% QoQ, +103.3% YoY อยู่ที่ 516 ลบ. หลักๆ เป็นผลมาจากธุรกิจโรงแรมหลัง Occupancy rate ในช่วง 4Q65 คาดฟื้นตัวขึ้นแตะระดับราว 70% เหนือจุดคุ้มทุน และรายได้จากการบริหารโครงการที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนโครงการ JV ทั้งแนวราบและแนวสูงที่เซ็นสัญญากับพันธมิตรในปี 2565 

Presale 2565 โตเด่น 36% YoY… ยอดขายแนวสูงยืนเหนือ 8.0 พันลบ. เป็นไตรมาสที่ 2

คาดบริษัทจะรายงานยอด Presale ในช่วง 4Q65 ที่ 1.2 หมื่นลบ. ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตขึ้นเด่น +57.9% YoY การเติบโตมาจากทั้งสองส่วนหลักคือ (1) ยอดแนวราบคาดที่ 3.2 พันลบ. (+12.7% QoQ, +59.3% YoY) จากยอดเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 รวมทั้งสิ้น 1.2 หมื่นลบ. (+54.8% YoY) และ (2) อุปสงค์โครงการแนวสูงที่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 โดยคาดบริษัทจะรายงานยอด Presale ช่วง 4Q65 ที่ 8.4 พันลบ. ทำจุดสูงสุดอันดับ 2 ในรอบ 13 ไตรมาส รองจาก 3Q65 ที่ 8.8 พันลบ.

สำหรับยอดเปิดตัวโครงการใหม่ใน 4Q65 อยู่ที่ 1.1 หมื่นลบ. แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการ (4.3 พัน ลบ.) และแนวสูง 4 โครงการ (7.0 พันลบ.) ส่งผลให้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 2566 อยู่ที่ 4.1 หมื่นลบ. (+131.3% YoY)

Outlook ปี 2556 ยังสดใส… คาดแผนเปิดตัวโครงการเน้นแนวราบมากขึ้น

เราประเมินเบื้องต้นสำหรับยอดเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2566 จะมีมูลค่าราว 5.0 หมื่นลบ. หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 22.0% เมื่อเทียบกับปี 2565 อย่างไรก็ตาม คาดสัดส่วนการเปิดตัวโครงการแนวราบ-แนวสูงในปี 2566 จะอยู่ที่ 50:50 ต่างกับ 21:79 ในปี 2565 เป็นการเน้นการขยายฐานโครงการบ้านเดี่ยวทั้งในกรุงเทพ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้ให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น จากลักษณะโครงการแนวราบที่มีวัฏจักรการรับรู้รายได้ ราว 1-3 เดือน หลังการเปิดตัว

นอกจากนี้ ณ สิ้น 3Q65 บริษัทยังมี Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปี 2566-2568 ที่สูงถึง 3.2 หมื่นลบ. ช่วยลดผันผวนของส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าในระยะสั้น-กลาง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 13.80 บาท/หุ้น

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2566 ขึ้น 16% จากการปรับสมมติฐานการเติบโตของรายได้การเช่าและบริการในธุรกิจโรงแรมและการบริหารโครงการเพิ่มขึ้น 35% จากเดิมที่ 1.3 พันลบ. เป็น 1.8 พันลบ.

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 เป็น 13.80 บาท/หุ้น นอกเหนือจากแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 2566 ORI ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัว คือ การจ่ายปันผลช่วงครึ่งปีหลังที่คิดเป็นราว 80% ของปันผลทั้งปี คาดปันผลงวด 2H65 ที่ 0.45 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.8%

- Advertisement -