บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +19.1%

Close Feb 6, 2023

Price (THB) 11.00

12M Target (THB) 13.10

Previous Target (THB) 13.10

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 322 ลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่กำไรสุทธิ คาดจะได้แรงหนุนจาก Share Premium ราว 94 ลบ. 
  • คาด Presale 4Q65 เบิน New high ที่ระดับ 3.2 พันลบ.
  • ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ ปี 2565 ทำจุดสูงสุด ใหม่ที่ 1.2 หมื่นลบ. ขณะที่ปี 2566 คาดบริษัทเปิดตัวไม่ต่ำกว่า 15 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 2.5 หมื่นลบ. เติบโตกว่าเท่าตัว

Our view

  • หากบริษัทรายงานกำไร 4Q65 ใกล้เคียงคาด จะคิดเป็น Upside risk ราว 9% จากประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565 ของเราที่ 974 ลบ.
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาปัจจุบันคิดเป็น PEG66 ที่ เพียง 0.46X ถูกเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม
  • BRI มีจุดเด่น คือ นโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละครั้ง คาดเงินปันผลงวดปี 2565 ที่ 0.65 บาท/หุ้น เทียบเท่า Dividend Yield ที่สูงถึง 5.9%

BRITANIA คาดกําไร 4Q65 เป็นจุดสูงสุดของปี

4Q65 เด่นทั้งกำไรปกติและกำไรสุทธิ หนุนจากค่าบริหารโครงการ และ Share Premium 

คาดรายได้และกำไรปกติ 4Q65 ที่ 1.4 พันลบ. (+13.5% QoQ, +40.6% YoY) และ 322 ลบ. (+31.5% QoQ, +114.3% YoY) ตามลำดับ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY หนุนจากการระบายสินค้าคงคลังที่ทำได้ดีต่อเนื่อง จากอุปสงค์โครงการแนวราบที่ยังแข็งแกร่ง ขณะที่ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 3Q65 และ 4Q65 ที่ 4.8 พันลบ. และ 4.3 พันลบ. ตามลำดับ มียูนิตสร้างเสร็จพร้อมโอนเป็นอีกปัจจัยหนุนผลประกอบการให้ทำจุดสูงสุดของปี ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 33.0% ทรงตัว QoQ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วง 4Q64 ที่ 31.3% จากการจัดโปรโมชั่นทางด้านราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี นอกจากนี้ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน พัฒนาโครงการ / ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เราคาดบริษัทจะรับรู้รายได้การบริการโครงการ และการบริการในช่วง 4Q65 ที่ 224 ลบ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่นเมื่อเทียบกับช่วง 3Q65 ที่ 93 ลบ. และช่วง 4Q64 ที่ 4 ลบ.

สำหรับกำไรสุทธิคาดที่ 416 ลบ. (+25.7% QoQ, +176.7% YoY) เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY จากกำไรในการจัดตั้งบริษัทร่วม (Share premium) กับพันธมิตรคือ ES CON Japan ลงทุนในโครงการ JV “Britania บางนา กม. 39” คาดที่ 94 ลบ. เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 9.2% และเป็นแหล่งที่มาของกำไรใหม่เมื่อเทียบกับช่วง 4Q64 ที่ยังไม่มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะ JV

ปิดปี 2565 ทำ New High ทั้งยอดขายและยอดเปิดตัวโครงการใหม่

แม้บริษัทได้ทำการเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการใน 4Q65 คือ Britania ขอนแก่น และ Britania อยุธยา รวมมูลค่า 2.6 พันลบ. ไปยังปี 2566 เป็นผลให้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 4Q65 มีจำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ รวมมูลค่า 4.3 พันลบ. แต่ยอดเปิดตัวโครงการทั้งปี 2565 ที่ 1.2 หมื่นลบ. เติบโตขึ้น 54.8% และเป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัท

ในด้านยอดขาย เราคาดบริษัทจะรายงานยอด Presale 4Q65 ที่ 3.2 พันลบ. (+12.7% QoQ, +59.3% YoY) ทำจุดสูงสุดรายไตรมาสในทิศทางเดียวกับยอดโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะเป็นผลให้ยอด Presale ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 1.1 หมื่นลบ. เติบโตขึ้น 31.9% YoY ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน 

คาดแผนปี 2566 รุกหนักกว่าเดิม… เปิดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากปี 2565

เบื้องต้นเราคาดบริษัทจะมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2566 อย่างน้อย 15 โครงการรวมมูลค่า 2.5 หมื่น ลบ. +/- หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ 1.2 หมื่นลบ. และจะเป็นการขยายฐานผลิตภัณฑ์ไปทุกระดับราคาในทั้งทำเลในกรุงเทพ-ปริมณฑลและต่างจังหวัด โดยจะยังคงโมเดลธุรกิจพัฒนาโครงการเองควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตรเป็นการต่อยอดรายได้จากการบริหารโครงการและ Share premium ในปี 2566-67

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 13.10 บาท/หุ้น

เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565/66 ที่ 974 ลบ. และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากกำไร 4Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์จะเป็น Upside risk ต่อประมาณการของเราราว 9% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 13.10 บาท/หุ้น ราคาปิดวานนี้เทียบเท่า PER66 ที่ 8.2x และ PEG66 ที่เพียง 0.46x หากมองภาพประกอบกับแนวโน้มการเติบโต จึงถือว่าถูกเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม นอกจากนี้ เราคาดเงินปันผลงวดปี 2565 ที่ 0.65 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่สูงถึง 5.9%

- Advertisement -