บล.ทรีนีตี้:
เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส – JMT
ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 80 บาท, Upside/Downside +49%, Median Consensus 80 บาท
คาดกำไร 4Q65 ยังทํา New High แต่อาจโตไม่สูงนัก
- คาดกำไร 4Q65 ที่ 488 ล้านบาท เติบโต 7%QoQ และ 2%YoY
- อัตราการเติบโตอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากฐานกำไรใน 3Q65 และ 4Q64 ค่อนข้างสูง บวกกับอาจมีการบันทึกคชจ.บางรายการในช่วงปลายปี
- คาดปี 66 กำไรเติบโตได้ดีขึ้น หลังหมดปัจจัยกดดัน อีกทั้งยังอาจมีส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC เข้ามามากขึ้น
- เรายังติดตามรายละเอียดของโครงสร้างธุรกิจหลัง Spin-off JAM แต่เบื้องต้นมองไม่ได้เป็นปัจจัยลบ
- เรามีการปรับลดประมาณการปี 65-66 ลงเล็กน้อย พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 80 บาท โดยราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาทำให้ Downside ค่อนข้างจำกัด จึงแนะนํา “ซื้อ”
คาดกำไร 4Q65 ยังทำ New High แต่อาจโตไม่สูงนัก
เราคาดกำไร 4Q65 ที่ 488 ล้านบาท เติบโต 7%QoQ และ 2% YoY ยังเป็นระดับ New High รายไตรมาสแม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่สูงนักเมื่อเทียบกับช่วงก่อนๆ ทั้งนี้เนื่องจากฐานกำไรใน 3Q65 และ 4Q64 อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง บวกกับอาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยายออฟฟิศและพนักงาน ทั้งนี้ในด้านยอดจัดเก็บคาดดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยได้รับผลบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังอาจเห็นการรับรู้สวนแบ่งกำไรจาก JK AMC เพิ่มขึ้นเป็น 53 ล้านบาท จากใน 3Q65 ที่ 35 ล้านบาท เนื่องจากมีการโอนหนี้จาก KBANK เข้ามามากขึ้น
ปี 66 ปัจจัยกดดันลด หนุนกำไรโตดีขึ้น
จากแนวโน้มกำไรปี 65 ที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 65-66 ลงราว 6% และ 10% จากประมาณการก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปี 66 จะเติบโตราว 44%YoY โดยปัจจัยกดดันจะลดลง ทั้งในแง่ของการจัดเก็บที่จะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และในแง่ของการซื้อหนี้ที่จะดีขึ้นหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในสถาบันการเงิน นอกจากนี้เรายังคาดจะเห็นส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ที่มากขึ้นจากการรับโอนหนี้มาจาก KBANK เพิ่มเติม
รอดูรายละเอียดการ Spin-off JAM
JMT ได้สละสิทธิ์การเพิ่มทุนใน JAM ให้กับ บจ. กสิกร อินเวสเตอร์ หรือ KINVEST ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ KBANK ด้วยมูลค่าการเข้าลงทุนไม่เกิน 3,500 ล้านบาท ทำให้หลังเพิ่มทุน JMT จะมีสัดส่วนใน JAM 90% และ KINVESTURE อีก 10% ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะนำ JAM เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาด ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับโครงสร้าง โดยให้ทาง JMT บริหารจัดการหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ขณะที่ JAM จะบริหารหนี้ที่มีหลักประกัน และทางบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปประมูลซื้อหนี้เพิ่มเติม โดยปัจจุบันเรายังรอความชัดเจนที่มากขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างภายหลังการ Spin-off
ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 80 บาท
จากการปรับประมาณการ ทำให้เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 66 ลงเหลือง 80 บาท อิง PBV 4.7 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันที่อ่อนตัวได้สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับการ Spin-off ทำให้ Downside ต่ำมากแล้ว ขณะที่กำไรยังมีโอกาสเติบโตดี เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง: อัตราการจัดเก็บหนี้และกระแสเงินสดและการซื้อหนี้ต่ำกว่าที่คาด