บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Gulf Energy Development (GULF.BK/GULF TB)*
ประมาณการ 4Q65F: สูงขึ้นได้เรื่อยๆ
Event
ประมาณการ 4Q65F และแนวโน้ม
Impact
ประมาณการ 4Q65F – ผลการดำเนินงานดีขึ้นเกือบหมด และมีกำไร FX
GULF จะออกงบวันที่ 16 ก.พ. เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q65F จะอยู่ที่ 5.46 พันลบ. (+402% QoQ, +79% YoY) และกำไรหลักจะอยู่ที่ 3.56 พันลบ. (+64% QoQ, +30% YoY) จาก i) ผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้า IPPs และ SPPs แข็งแกร่งขึ้น ii) มีกำไรจาก FX 1.6 พันลบ. (จากเงินบาทแข็งค่าขึ้น) iii) มีกำไรหลังหักภาษี 300 ลบ. จากการขายหุ้นบางส่วนใน BKR2 ทั้งนี้ ค่า Ft ของ SPPs (GMP และ GJP) ที่เพิ่มเป็น 0.9343 บาท/kWh (+0.46) ขณะที่ราคาก๊าซ SPP ลดมาอยู่ที่ 470 บาท/mmbtu (-19% QoQ) ทำให้ margin รวมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน IPPs เริ่มเปิดดำเนินการ GSRC Unit 4 (ตั้งแต่ 65) และมี dispatch factor จาก กฟผ. สูงขึ้น นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือน่าจะเพิ่มขึ้น 21% QoQ เพราะผลประกอบการของ INTUCH, PTTNGD, JV ของ GULF และ GUNKUL แข็งแกร่งขึ้น เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ จากการออกหุ้นกู้ในเดือน ก.ย. 65 ทั้งนี้ เมื่อรวมผลการดำเนินงานใน 4Q65F กำไรหลักในปี 2565F จะอยู่ที่ 1.2 หมื่นลบ. (+37% YoY) ดีกว่าเราและตลาดคาด 7% / 10%
แนวโน้มใน 1Q66F – กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
เราคาดว่ากำไรหลักใน 1Q66 จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง จากการขึ้นค่า Ft เป็น 1.54 บาท/kWh (+0.61) ขณะที่ราคาก๊าซ SPP ขึ้นไม่มาก นอกจากนี้ยังจะมีการเริ่มเปิดดำเนินการ GPD Unit 1 อีกด้วย ขณะเดียวกันดีล Jackson Generation ซึ่งล่าช้าจาก 4Q65 น่าจะปิดดีลได้ในเดือน มี.ค. 66 ส่วนโครงการพลังงานลมแม่โขง (128MW, 0.25 บาท/หุ้น) ซึ่งถูกรัฐบาลเวียดนามลดค่าไฟลงเหลือ US$0.078/kWh (จาก US$0.098/kWh) กำลังเจรจาขอขึ้นค่าไฟฟ้ากลับมา โดยน่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 1H66
ยังคงรักษาสถานะที่แตกต่างจากคู่แข่งเอาไว้
GULF กำลังดำเนินกลยุทธ์ในการแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มี New S-curve โดยเฉพาะจากธุรกิจดิจิทัลในเครือ โดยบริษัทเพิ่งจะพัฒนาโครงการ data center ขนาด 20MW ในประเทศไทยผ่าน IV (SCOD ปี 2568) ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะทำให้ประมาณการกำไรของเรามี upside เพิ่มแค่เล็กน้อย เพราะโครงการมีขนาดเล็ก แต่เรามองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาโครงการขนาดที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต เพราะประเทศไทยยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา data center ดังนั้นจึงมองเป็นโอกาสของบริษัทที่จะสร้างการเติบโต โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของพันธมิตรทั้ง GULF, Singtel, และ AIS
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ที่ 62 บาท เราคิดว่า GULF ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากธุรกิจที่หลากหลายซึ่งมี S-curve ใหม่, เครือข่ายทางธุรกิจ, และยังมีช่องให้ leverage เพิ่มอีกมาก
Risks
ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย