บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 

B.Grimm Power (BGRIM.BK/BGRIM TB)*

ประมาณการ 4Q65F : ที่แล้วก็แล้วไป

Event

ประมาณการ 4Q65F และแนวโน้ม

Impact

ประมาณการ 4Q65F – มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ส่วน margin ของ SPP แข็งแกร่ง

BGRIM จะส่งงบในวันที่ 28 ก.พ. โดยเราคาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิ 550 ลบ. (จากขาดทุน 529 ลบ.ใน 3Q65) แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 750 ลบ. และกำไร FX กำไรหลักจะอยู่ที่ 175 ลบ. (+600% QoQ, -18% YoY) จากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPPs แข็งแกร่งขึ้น โดย GPM เพิ่มเป็น 10.8% (จาก 9% ใน 3Q65) เราคาดว่าต้นทุนก๊าซของ SPP จะเหลือ 480 บาท/mmbtu (-14% QoQ) ในขณะที่มีการขึ้นค่า Ft เป็น 0.93 บาท/kWh (+0.5) อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้จะลดลง 13% QoQ เพราะปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กับ กฟผ.) และผู้ใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรม (IU) ลดลง โดยส่วนของ กฟผ. มีการปิด BPWHA และมีการขายไฟฟ้าลดลงตามโครงการ replacement ของโรงไฟฟ้า ซึ่งจะมี PPAS กับ กฟผ. เหลือ 30MW (จาก 90MW) ขณะที่ส่วนของ IU อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าก็ลดลงเนื่องจากลูกค้าปิดซ่อมบำรุงโรงงาน และอุปสงค์จากกลุ่มผู้ผลิตยางลดลง เราคาดว่า SG&A จะเพิ่มขึ้น QoQ ตาม ฤดูกาล ในขณะที่คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครืออาจจะพลิกมาเป็นบวก ทังนีเมือรวมผล ประกอบการ 4Q65F แล้วเราคาดว่ากำไรหลักในปี 2565F จะอยู่ที่ 381 ลบ. (-84% YoY)

ประมาณการ 1Q66F – ผลประกอบการจะดีขึ้น QoQ

เรามองบวกกับแนวโน้มกำไรหลักใน 1Q66 ซึ่งคาดว่าจะดีดตัวขึ้น QoQ แต่จะยังลง YoY โดยผลประกอบการจะได้แรงหนุนจาก SG&A ที่กลับมาอยู่ระดับปกติ, ปริมาณยอดขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นค่า Ft เป็น 1.54 บาท/kWh (+0.61) ในขณะที่คาดว่าต้นทุนก๊าซ SPP จะขยับเพิ่มเล็กน้อยเป็น ~500- 510 บาท/mmbtu (+4-6% QoQ) สำหรับรายการพิเศษเราคาดว่าผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ จะลดลงอย่างมาก ในขณะที่จะยังคงมีกำไรจาก FX อยู่ ทั้งนี้ เราคาดว่า BGPM2 (98MWe) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งสุดท้ายในโครงการ replacement project จะเริ่มเปิดดำเนินการใน 1Q66

2023 : ปีแห่งการกลับมาผงาดอีกครั้งพร้อมกับกลยุทธ์เชิงรุก

BGRIM ยังคงมองบวกว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งได้ตามเป้า 10GWh ภายในปี 2573 (จาก 3.4GWh ในปี 2565) และเนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายจะเพิ่มทุน ดังนั้นเงินทุนส่วนใหญ่จะมาจากกระแสเงินสด รองลงมาคือเงินสดของบริษัท และการออกพันธบัตรประเภท hybrid เรามองว่าการจะบรรลุเป้าหมายของ BGRIM ยังเป็นความท้าทายเมื่อพิจารณาจากงบดุลที่ตึงตัว เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566F จะกลับมาโตถึง 600% YoY (จากผลของฐานที่ต่ำ) เพราะต้นทุนก๊าซของ SPP ลดลง, การขึ้นค่า Ft มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา, และประสิทธิภาพดีขึ้นจากโครงการ SPP replacement

Valuation & Action

นักลงทุนควรมองไปยังกำไรที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นแรงในปี 2566-2567 ทั้งนี้เราคาดว่ากำไรที่ฟื้นตัวขึ้นและกลยุทธ์เชิงรุกของบริษัทจะทำให้มีการ re-rate หุ้น BGRIM ซึ่งปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังของ forward PE ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ที่ 46 บาท

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -