บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Osotspa (OSP.BK/OSP TB)*

กำไรไตรมาส 4/65 ฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย แต่ยังห่างจากระดับกำไรปกติ

Event

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566 ลง 21% 8% ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566F ลงเหลือ 26 บาท และปรับลดคำแนะนำ

Impact

ยังดึงธุรกิจกลับมาไม่ได้

OSP พยายามจะดึงส่วนแบ่งตลาด energy drink กลับคืนมา หลังจากที่เสียส่วนแบ่งตลาดไปตอนที่ปรับขึ้นราคาขายปลีก M150 เป็นขวดละ 12 บาท (จากเดิม 10 บาท) เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ทั้งนี้ เพื่อดึงธุรกิจกลับมา OSP จึงออกวางจำหน่าย SKU ใหม่ของเครื่องดื่ม M150 ที่ราคา 10 บาท เมื่อปลาย 3Q65 และจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าแบบร้านค้าดั้งเดิม ซึ่งการตอบรับจากตลาดยังอืดๆ และยังไม่สามารถจะทำรายได้ใน 4Q65 นอกจากนี้ ในการพยายามจะดึงธุรกิจกลับ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทยังออกแคมเปญการตลาดเชิงรุก โดยมุ่งไปทั้งช่องทาง traditional และช่องทางใหม่ๆ ในร้านสะดวกซื้อ CVS ด้วย ซึ่งอาจจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในปี 2566F

รายได้เพิ่มขึ้น QoQ จากกลุ่มที่มีสัดส่วนยอดขายต่ำอย่างเช่น ของใช้ส่วนตัว และ OEM

เราคาดว่ารายได้ของ OSP จะฟื้นตัวขึ้น 10% QoQ จากฐานที่ต่ำใน 3Q65 แต่จะยังลดลง 2% YoY ใน 4Q65F ในขณะที่คาดว่ารายได้เต็มปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 2% ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากของใช้ส่วนตัว (8% ของรายได้) และ OEM (10% ของรายได้) ในขณะที่การเติบโตของเครื่องดื่มชูกำลัง (energy drink) (65% ของรายได้) ยังหดตัวอยู่

ต้นทุนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต้นทุนก๊าซยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 4Q65 และเพิ่มแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิตของ OSP เราใช้สมมติฐานว่าธุรกิจของใช้ส่วนตัวจะมีมาร์จิ้นสูงขึ้น แต่ยังไม่มากพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นต่อมาร์จิ้นของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง (energy drink) ได้ เราใช้สมมติฐานกำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 30.6% ใน 4Q65 (จากฐานต่ำที่ 29.6% ใน 3Q65) และ 30.8% ในปี 2565F (จาก 34.5% ในปี 2564)

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565/2566 ลง 21%/8% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566F ลงเหลือ 26 บาท

เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึง i) อัตราการเติบโตของยอดขายปี 2565-2566 ที่ลดลงเหลือ 4.4%/5.5% (จากเดิมที่ 6%/5.5) ii) สัดส่วน SG&A/รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 23.8%/22.3% (จากเดิมที่ 21.9%/21.9%) ทั้งนี้ ราคาหุ้น OSP ถือว่าแพง เพราะอยู่ที่ระดับ PE เฉลี่ยระยะยาวที่ 32x ซึ่งไม่สมกับอัตราการเติบโตที่ช้าของบริษัท ดังนั้น เราจึงปรับลด PE ที่เหมาะสมเหลือ 27x เท่ากับ -1 S.D. (จากเดิมที่ใช้ PE 30x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2566F ใหม่ที่ 26 บาท (ลดลงจาก 29.50 บาท)

Risks

ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, ส่วนแบ่งตลาดลดลงและเสียสถานะทางการตลาดไปแรงกดดันทางด้าน margin

 

- Advertisement -