บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
AAPICO Hitech (AH TB)
ขาดทุน FX กดดัน 4Q65 แต่กำไรปกติจะทำสถิติ
กำไรปี 2565-66 จะเติบโตและทำสถิติ หุ้นมีมูลค่าถูก แนะนำซื้อ
เราคาดจะมีกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ทรุดลงเหลือ 210 ล้านบาท (-65%QoQ, +63%YoY) เนื่องจากคาดจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 220 ล้านบาท ถ้าหากหักรายการนี้จะมีกำไรปกติที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ถึง 430 ล้านบาท (+1%QoQ, +188%YoY) AH ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ต่อเนื่อง จะช่วยหนุนยอดขายเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมในปี 2565/66 คือ โต 36% / 10% ตามลำดับ และหนุนกำไรเติบโตต่อเนื่อง 95% / 15% ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่ถูกซื้อขาย P/E ปี 2566 ที่ต่ำ 7.0 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน 5.0% คงราคาเป้าหมาย 38 บาท บนฐาน P/E 8.5 เท่า ให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ซึ่งเท่ากับ 9.8 เท่า จากกำไร ในอดีตมีความผันผวน คงแนะนํา ซื้อ
4Q65 คาดกำไรสุทธิทรุดลงจาก FX แต่กำไรปกติจะทำสถิติ
AH จะประกาศผลประกอบการปี 2565 วันที่ 28 ก.พ. นี้ เราคาดจะมีกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ทรุดลงเหลือ 210 ล้านบาท (-65%QoQ, +63%YoY) เนื่องจากคาดจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 220 ล้านบาท จากเงินบาทที่แข็งค่า 8.5% ถ้าหากหักรายการนี้จะมีกำไรปกติที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ถึง 430 ล้านบาท (+1%QoQ, +188%YoY) ผลประกอบการจะได้แรงหนุนจากยอดขายที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 7,644 ล้านบาท (+5%QoQ, +32%YoY) ตามอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มียอดผลิตรถยนต์ 519,478 คัน (+5%QoQ, +10%YoY) โดยเฉพาะ ลูกค้าหลัก Isuzu (สัดส่วน 39% ของยอดขายชิ้นส่วน) มียอดผลิต 98,947 คัน (+7%QoQ, +20%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี 11% เทียบกับ 10% ใน 4Q64
ได้รับคำสั่งซื้อใหม่หนุนยอดขายเติบโตดี
คำสั่งซื้อใหม่ ที่จะรับรู้ในปี 2566 คือ 1.) ชิ้นส่วนให้ Vinfast คือ Thrust Panel 500-600 ล้านบาท, Body Panel 300 ล้านบาท และ Battery Shield 100 ล้านบาท 2.) Axle Shaft สำหรับรถยนต์ฟอร์ดจะเพิ่มจาก 700 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 1,100-1,200 ล้านบาท ในปี 2566 นอกจากนี้มีการเปิดโชว์รูมขายรถยนต์เพิ่มคือ 3Q65 Mitsubishi, Ford ในไทย และ 4Q65 Proton ที่มาเลเซีย ทำให้ผู้บริหาร AH ตั้งเป้าหมายปี 2565 ยอดขายจะเติบโตต่ออีก 10-15% และ มีอัตรากำไรขั้นต้น 10-12%
ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น
ผลประกอบการไตรมาส 4Q65 ที่ยังทำได้ดีกว่าคาด เราได้ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น คือ ปี 2565 ปรับเพิ่มยอดขาย และกำไรปกติ 3% / 17% คาดยอดขาย 27,819 ล้านบาท เติบโต 36% มีกำไรปกติ 1,542 ล้านบาท เติบโต 95% และ ปี 2566 ปรับเพิ่ม ยอดขาย และกำไรปกติ 3% / 5% คาดยอดขาย 30,601 ล้านบาท เติบโต 10% มีกำไรปกติ 1,622 ล้านบาท เติบโต 5%
