บล.ทรีนีตี้:
บี กริม เพาเวอร์ จำกัด – BGRIM
ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 44 บาท, Upside/Downside +10%, Median Consensus 48 บาท
คาดกำไรปกติไตรมาส 4Q65 ลดลง YoY เพิ่มขึ้น QoQ
- คงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาพื้นฐานที่ปี 66 ที่ 44 บาท (อิงวิธี DCF)
- คาด BGRIM รายงานขาดทุนสุทธิที่ 561 ล้านบาท จากการด้อยค่าพิเศษประมาณ 850 ล้านบาท และคาดว่ามี FX gain ประมาณ 210 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษออกไป คาดว่ากำไรปกติอยู่ที่ 89 ล้าน -30.9% YoY, +251% QoQ ลดลง YoY ปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากต้นทุนพลังงานเริ่มผ่อนคลาย รวมถึงการได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่า Ft เต็มไตรมาส (93.43 สตางค์)
- คาดกำไรปี 2566 ฟื้นตัวจากค่า Ft ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 158 สตางค์ จาก 93.43 สตางค์ (ค่า Ft ช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค.) ในปี 2565 และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงแนวโน้มค่าเชื้อเพลิงที่เป็นเทรนด์ขาลง
- BGRIM ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 10,000 MW ภายในปี 2573 และคาดว่า CAPEX จะอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท (ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 กำลังการผลิตอยู่ที่ 3,379 MW) โดยจะเน้นการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนกว่า 90%
Earning Preview
คาด BGRIM รายงานกำไรสุทธิที่ -561 ล้านบาท จากการด้อยค่าพิเศษประมาณ 850 ล้านบาท และคาดวามี FX gain ประมาณ 210 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษออกไป คาดว่ากำไรปกติอยู่ที่ 89 ล้าน -30.9% YoY, +250% QoQ ลดลง YoY ปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากต้นทุนพลังงานเริ่มผ่อนคลาย รวมถึงการได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่า Ft เต็มไตรมาส (93.43 สตางค์)
2566 Outlook
คาดกำไรปี 2566 ฟื้นตัวจากค่า Ft ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 158 สตางค์ จาก 93.43 สตางค์ (ค่า Ft ช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค.) ในปี 2565 และอัตราแลกเปลี่ยนที่เริ่มแข็งค่าขึ้น รวมถึงแนวโน้มค่าเชื้อเพลิงที่เป็นเทรนด์ขาลง นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทสามารถหาลูกค้า IU รายใหม่เพิ่มขึ้นได้ 50 – 60 MW
Future Outlook
BGRIM ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 10,000 MW ภายในปี 2573 (ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 กำลังการผลิตอยู่ที่ 3,379 MW) และคาดว่า CAPEX จะอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยเงินลงทุนมาจากจากการะแสเงินสดและหุ้นกู้ คาดว่าจะเป็นการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนกว่า 90% ทั้งในและต่างประเทศ
ความเสี่ยง: ราคาเชื้อเพลิงผันผวน เงินบาทอ่อนค่า และการปิดซ่อมบำรุงนอกกำหนดการ