Our View? “ยังหม่น”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,660 / 1,655 และแนวต้านที่บริเวณ 1,670 / 1,665 เราประเมินสัปดาห์นี้ตลาดคาดจะให้น้ำหนักไปกับการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ม.ค. ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญตัวหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.2% YoY ชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ +0.5% MoM เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า คาดจะทำให้ตลาดมีความผันผวนได้บ้างในระยะสั้น จากความกังวลว่า FED จะมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือระดับ 5.0% และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับคุมเข้ม (Restrictive Level) ยาวนานกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้สหรัฐอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดย 10 Years US Bond Yield ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับราว 3.74% +/- สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ รวมทั้งยังเป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจในแง่อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัยให้แคบลงต่อเนื่อง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังอยู่ในภาพของการปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 79.72 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.66 ดอลลาร์ (+2.13%) โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานในรัสเซียมีแนวโน้มจะลดลงอีก หลังจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยว่ารัสเซียจะปรับลดกำาลังการผลิตนํ้ามันลง 5 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน มี.ค. หรือราว 5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด รวมทั้งรัสเซียจะไม่ขายน้ำมันให้กับชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับการกาหนดเพดานน้ำมันรัสเซีย คาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง
สําหรับปัจจัยในประเทศ คาดตลาดหุ้นไทยเรามีความกังวลต่อแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกได้บ้างในระยะสั้น หลังจากค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าตามการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การรายงานผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นไทยในหลาย Sector ที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด คาดจะกดดันทิศทาง EPS ของตลาดในปีนี้ลดลงได้บ้าง เป็นปัจจัยเร่งการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติได้บ้างเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 2.4 พันล้านบาท และอยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures กว่า 1.9 หมื่นสัญญา โดยภายในเดือน ก.พ. ขายสุทธิไปกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท และอยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures กว่า 8.0 หมื่นสัญญา คาดจะกดดัน-จํากัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเชิงบวกในภาพระยะกลางต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งการที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนประกาศอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยว สามารถจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะสำหรับชาวจีนไปประเทศต่างๆ 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย คาดไทยจะเป็นเป้าหมายหลักจากการท่องเที่ยวดังกล่าว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Re-Opening อาทิ AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, CRC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI และ PLANB ได้ต่อ รวมทั้งแนะนำให้ติดตามการรายงานตัวเลข GDP 4Q′65 ของไทย คาดจะออกมาที่ระดับ 3.6% YoY และ 0.6% QoQ ขณะที่ทั้งปี’65 จะอยู่ที่ระดับ 3.2% เป็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปหลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์ COVID-19
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “INTUCH”
กลยุทธ์ แนวรับ 74.00 / 73.00 Target 77.00 / 19.00 Stop <72.00