บล.บัวหลวง:
EV – แนวโน้มปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง (OVERWEIGHT)
เราชอบ NEX มากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากบริษัทจะรายงานการเติบโตอย่างมากในไตรมาส 4/65 หนุนโดยการดำเนินงานเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรกของโรงงาน EV เราคาดว่าหุ้น EV ทั้งหมดที่เราให้คำแนะนำจะรายงานรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องทั้งปี 2566
NEX จะเป็นผู้นำในไตรมาส 4/65
เราคาดกําไรหลัก NEX ในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 455 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนหลัก 10 ล้านบาทในไตรมาส 4/64 และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากกําไร 8 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 เนื่องจากโรงงานดำเนินการตลอดทั้งไตรมาส สําหรับ AH เราคาดว่ากําไรหลักจะอยู่ที่ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% YoY แต่ลดลง 27% QoQ กำไรที่เติบโต YoY หนุนมาจากคำสั่งซื้อใหม่ รถรุ่นใหม่ และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก AH มีแนวโน้มที่จะรายงานต้นทุนสูงในไตรมาสที่สี่ (โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร) และราคาไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดว่ากำไรไตรมาสนี้จะลดลง QoQ
สําหรับ SAT เราคาดกำไรหลักในไตรมาส 4/65 ที่ 236 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY แต่ลดลง 6% QoQ กำไรที่เติบโต YoY หนุนมาจากคำสั่งชื้อใหม่และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ การปรับราคากับลูกค้าจะหนุนอัตรา กําไรกลุ่มการเกษตรยังคงอ่อนแอ ดังนั้นเราคาดว่าการเติบโตของ SAT จะเติบโตช้ากว่า AH ประมาณการกำไรหลักของ FORTH อยู่ที่ 173 ล้านบาท ลดลง 7% YoY (รายได้จากธุรกิจ Enterprise Solutions ที่สูงในไตรมาส 4/64) และ 26% QoQ (รายได้จากธุรกิจ EMS ที่สูงในไตรมาส 3/65)
ไตรมาส 1/66 ที่ดีกว่าเดิม
เราคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/66 ของ NEX ที่ 517 ล้านบาท (ขาดทุน 63 ล้านบาทในไตรมาส 1/65) เนื่องจากโรงงานจะเปิดดำเนินการตลอดทั้งไตรมาส เราคาดการเติบโต 14% QoQ เนื่องจากมีวันหยุดราชการน้อยลงใน ไตรมาสแรก สําหรับ AH เราคาดกำไรหลักที่ 455 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 46% QoQ เราคาดกําไรหลักของ SAT ที่ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และ 21% QoQ โดยปกติแล้ว ไตรมาสแรกจะเป็นจุดสูงสุดของปีสําหรับ AH และ SAT เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นจะปิดรอบปีบัญชีในวันที่ 31 มีนาคม สำหรับ FORTH เราคาดกำาไรหลักที่ 208 ล้าน บาทในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น 10% YoY และ 20% QoQ หนุนโดยการตั้งตู้เต่าบินเพิ่มขึ้น
การเติบโตของหุ้นทั้งสี่ตัวที่เราให้คำแนะนำในปี 2566
ประมาณการกำไรหลักของ NEX ในปี 2566 อยู่ที่ 2,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 507% YoY เนื่องจากโรงงานของบริษัทจะเปิดดำเนินการตลอดทั้งปี เมื่อวันที่ 10 ก.พ. NEX ประกาศร่วมมือกับ TC Industrial Equipment (Thailand) เปิดโชว์รูมแบบ “3S” (Sales, Service, Spare parts) เป้าหมายการขาย EV ในปี 2566 อยู่ที่ 50 คันเท่านั้น แต่การเปิดโชว์รูมถือเป็นการเข้าสู่ตลาด Mass สําหรับ FORTH ประมาณการกำไรหลักในปี 2566 ของเราอยู่ที่ 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY หนุนจากการเพิ่มตู้เต่าบินจากประมาณ 5,000 ตู้
ในปี 2563 เป็นประมาณ 12,000 ตู้ในปี 2566 การเข้าถึง EV ในไทยยังต่ำ ดังนั้นเราจึงไม่คาดว่าธุรกิจเครื่อง ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า กิ้งก่า EV ของ FORTH จะสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2566
สําหรับ AH เราคาดกำไรหลักในปี 2566 จะอยู่ที่ 1,686 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อใหม่ จาก Ford และ VinFast และการเปิดโชว์รูมใหม่ในมาเลเซีย สําหรับ SAT เราคาดกําไรหลักที่ 1,043 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 9% YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อใหม่ ดีลโรงงาน E Tuk คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในครึ่งหลัง ของปี 2566 โดยมีเป้าหมาย 200-300 คัน ราคาคันละ 350,000-400,000 บาท