บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +17.3%
Close Feb 10, 2023 Price (THB) 56.25
12M Target (THB) 66.00
Previous Target (THB) 66.00
What’s new?
- ประกาศกำไรสุทธิ 4Q65 ทำได้ 147 ล้านบาท ถือเป็นระดับต่ำ -97% YoY จากขาดทุนสต็อก 7.1 พันล้านบาท แต่ใกล้เคียงที่เรา และตลาดคาด
- แม้ว่า 4Q65 จะเป็นช่วงปิดซ่อมโรงกลั่น-โรงงานน้ำมันหล่อลื่น, ค่าใช้จ่ายสูง และมีขาดทุน Hedging แต่กำไรฟื้นตัว QoQ จากค่าการกลั่นระดับสูง และมีกำไร FX เข้ามาช่วย
- ประกาศเงินปันผลงวด 2H65 ที่ 1.70 บาท/หุ้น (Yield 3.0%) สูงกว่าคาด ขึ้น XD วันที่ 23 ก.พ.
Our view
- คงกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท -59% YoY จากการ Nomialized ของค่าการกลั่น และไม่มีกำไรพิเศษจากการจําหน่ายหุ้น GPSC
- ปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 0.8 เท่า นับว่ามีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีกว่า -1.50 SD
- เราแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 66.00 บาท คาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากทิศทางงบ 1Q66 ฟื้นตัวรับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ – ผ่านช่วงปิดซ่อมบำรุง และมีเงินปันผลงวด 2H65 สูงกว่าคาด
THAIOIL กําไรบางๆ ใกล้เคียงคาด แต่เด่นที่ปันผลสูงกว่าคาด
ประกาศกำไรบางๆ แต่สอดคล้องกับที่เรา และตลาดคาด
ประกาศกำไรสุทธิ 4Q65 ทำได้ 147 ล้านบาท ถือเป็นกำไรรายไตรมาสระดับต่ำ ลดลง -97% YoY เพราะขาดทุนสต๊อกน้ำมันสูง 7.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เทียบกับผลประกอบการปกติ 3-4 พันล้านบาท กำไร 4Q65 ที่ 147 ล้านบาท นับว่าไม่ได้แตกต่างจากคาดการณ์ของเรา และ Bloomberg Consensus ที่ 2-4 ร้อยล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ และฟื้นตัว QoQ จากกำไร 12 ล้านบาทใน 3Q65
ค่าการกลั่นระดับสูง แต่ถูกชดเชยด้วยขาดทุนสต็อกจํานวนมาก
เมื่อเทียบกับ 3Q65 บริษัทฯ มีอัตราการผลิตลดลง QoQ ทุกธุรกิจ โดยหน่วยการกลั่นและน้ำมันหล่อลื่นมีการใช้กำลังผลิตที่ 103% และ 43% ตามลำดับ เนื่องจากเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุง CDU#2 กำลังผลิต 50 kbd (ตามแผน) ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และมีขาดทุน Hedging 878 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการฟื้นตัว QoQ เพราะได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของ Middle Distillate Crack Margin สวนทางต้นทุน Crude Premium ที่ต่ำลง ทำให้ค่าการกลั่นทำได้ US$9.3/bbl (เทียบกับ US$6.7/bbl ใน 3Q65) นอกจากนี้ Margin ของอะโรมาติกส์ยังฟื้นตัวจาก PX Spread ที่ได้อานิสงส์จากการปรับตัวลงของต้นทุน ULG95 และอุปสงค์เครื่องนุ่งห่ม – บรรจุภัณฑ์น้ำดื่มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ Market GIM ทําได้ US$11.1/bbl (+26% QoQ) ขณะที่ขาดทุนสต็อกน้ำมันรวม NRV อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท (ลดลงจาก 9.0 พันล้านบาทใน 3Q65) และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.7 พันล้านบาทจากเงินบาทแข็งค่า
1Q66 ดีขึ้น รับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ และผ่านช่วงปิดซ่อมบำรุง
แนวโน้มกำไร 1Q66 ฟื้นตัว QoQ หนุนจาก 1) การปรับขึ้นของ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปหลังความต้องการใช้ได้รับอานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ, แผนซ่อมบำรุง – เหตุการณ์ Unplanned Shutdown โรงกลั่นหลายแห่ง และมาตรการตอบโต้รัสเซียของยุโรป ทั้งการห้ามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป – กำหนดเพดานราคาน้ำมัน โดยบริษัทฯ ให้ข้อมูลว่าค่าการกลั่น 1QTD เฉลี่ยอยู่ระดับสูงกว่า US$10/bbl สอดคล้องกับค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่อยู่ระดับ US$9.8/bbl 2) ต้นทุนน้ำมัน (Crude Premium) ต่ำลง อ้างอิง Murban Premium 1Q66 อยู่ที่ US$5.0/bbl (เทียบกับ US$7/bbl ใน 4Q65) 3) ขาดทุนสต็อกน้ำมันลดลง QoQ เพราะราคาน้ำมันมี Downside จำกัดจากพัฒนาการเชิงบวกของเศรษฐกิจโลก และการฟื้นตัวของจีน 4) อัตราการกลั่นกลับสู่ระดับปกติ (คาดระดับ 110% หรือเพิ่มขึ้น +6% QoQ) หลัง CDU #2 ผ่านช่วงปิดซ่อมบำรุงมาแล้ว
ปี 2566 ค่าการกลั่น Normalized แต่ภาพรวมกำไรยังอยู่ระดับสูง
คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท -59% YoY จากการ Normalized ของค่าการกลั่นที่สูงผิดปกติในปีก่อน และไม่มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายหุ้น GPSC 1.7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กำไร 1.3 หมื่นล้านบาทถือเป็นระดับดีเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตสูงสุดในรอบ 5 ปี (เมื่อไม่รวมปี 2565) นโยบาย Hedging ปี 2556 จะระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ขาดทุน Hedging ลดลง YoY โดยปีนี้บริษัทฯ จะทำ Hedging รวม 10-20% ของปริมาณขาย (ปัจจุบันทำแล้ว 5% เทียบกับปีก่อนที่ 30-40%)
โมเมนตัม 1Q66 ฟื้นตัว พร้อมปันผลสูง… แนะนำ “ซื้อ”
ปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 0.8 เท่า นับว่ามีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีกว่า -1.50 SD คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 66.00 บาท อ้างอิง PBV ที่ 0.9 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากทิศทางงบ 1Q66 ฟื้นตัว และเงินปันผลงวด 2H65 สูงกว่าคาดที่ 1.70 บาท (Yield 3.0%)