Daily Focus: Selective and Earnings Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบแคบตลอดทั้งวัน ก่อนปิดบวกได้อ่อนๆ 0.32 จุด ตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน กลุ่มพลังงานประคองตาดตามราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว หลังรัสเซียประกาศปรับลดกำลังการผลิตลง 5 แสนบาร์เรลต่อวัน รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ และหุ้นใหญ่อย่าง ADVANC นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนวันนี้ สถานะของสถาบันในประเทศทรงตัว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 แต่บางลงเหลือ 1.1 พันลบ. (แต่เริ่มพลิกกลับมา Long Index Futures 2.2 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Up ฟื้นตัวได้ระยะสั้นในกรอบ 1,660-1,670 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้น กลุ่มพลังงานคาดว่ายังหนุนตลาดได้ต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันดิบที่ยังขยับขึ้น อย่างไรก็ตาม กรอบการบวกคาดว่ายังไม่กว้างนัก เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคืนนี้คือเงินเฟ้อ CPI เดือน ม.ค. ของ สหรัฐฯ ซึ่งหากยังปรับตัวลงช้าหรือสูงกว่าคาด จะสร้างความกังวลต่อทิศทางนโยบายการเงินของ FED มากขึ้น ทั้งโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและทรงตัวในระดับสูงยาวนานกว่าคาด ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสอยู่ที่ผลประกอบการ 4Q22 โดยที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ยังค่อนไปในทางต่ำกว่าคาด Sector ที่ตลาดรอดู คือ Consumption และ Reopening Play ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตลาดคาดหวังสูงต่อการฟื้นตัวและจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดได้ อย่างไรก็ตาม ยังมองจังหวะพักตัวของดัชนียังเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากเศรษฐกิจไทยที่ทยอยเร่งตัว ส่วนระยะสั้นเน้น Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และคาดกำไร 4Q22 แข็งแกร่ง
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และคาดกำไร 4Q22 แข็งแกร่ง//ระยะ กลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE
หุ้นเด่นวันนี้ : BEM
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท
- เราคาดกำไร 4Q22 +4% q-q, +27% y-y ได้อานิสงส์จากทั้งการฟื้นตัวของปริมาณรถบนทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นตามการเปิดเมือง ขณะที่ฝั่งต้นทุนคาดเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับรายได้โดยเฉพาะค่าบำรุงรักษาและค่าไฟ
- เราคาดกำไรปี 2022 +152% y-y แนวโน้มปี 2023 คาดว่ายังคงเติบโตได้ต่อเนื่องอีก +64% y-y ขณะที่สายสีส้มคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1Q23 โดยเรารวมมูลค่าเพิ่มจากรถไฟฟ้าสายสีส้มไว้ในประมาณการแล้ว
- แนวรับ 9.40 บาท แนวต้าน 9.80//10 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคบางๆ อีก US$132 ล้าน โดยออกจากไต้หวัน US$179 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$117 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทยและอินโดนีเซียประเทศละ US$27-33 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสพลิกมาไหลเข้าตามบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้น แต่คาดปริมาณยังไม่หนาแน่นโดยตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) จับตาเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ คืนนี้ เป็นตัวเลขเดือน ม.ค. ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +0.4% m-m, +6.2% y-y ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานคาด +0.4% m-m, +5.5% y-y ซึ่งจากตัวเลขที่คาดการณ์จะพบว่าการปรับขึ้น m-m ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าที่จะทำให้เงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้าลดลงใกล้กรอบเป้าหมาย ขณะที่ในแง่ y-y เริ่มเห็นการชะลอตัวที่ช้าลง ซึ่งหากตัวเลขออกมาใกล้เคียงหรือสูงกว่าคาด เราประเมินว่าจะไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนตลาดเนื่องจากยังสะท้อนว่าเงินเฟ้อจะยังไม่กลับไปสู่กรอบเป้าหมายได้เร็ว และอาจทำให้ตลาดกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED จะมีโอกาสสูงกว่าคาดการณ์ปัจจุบันที่ 5-5.25% และทรงตัวยาวนานมากขึ้น ซึ่งโดยรวมจะกดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ยังพักตัวต่อเนื่อง รวมถึงเศรษฐกิจที่ยังมีความเสี่ยงชะลอและอาจถึงขั้นติดลบในปีนี้
(+) GPSC เราคาดผลการดำเนินงาน 4Q22 ที่อ่อนแอจะเป็นจุดต่ำสุดก่อนฟื้นตัวใน 1Q23 โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft ช่วยชดเชยต้นทุนก๊าซที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ปี 2022 และยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ต้นทุนถ่านหินปรับตัวลงต่อเนื่อง เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2023 ลงเหลือ 5.8 พันลบ. แต่ยัง +108% y-y อย่างไรก็ตาม เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น จาก 68.50 บาทเป็น 76 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
(+) SNNP คาดกำไร 4Q22 ที่ 164 ลบ. +16% q-q, +41% Y-Y จากแรงหนุนของ High Season ความสำเร็จของสินค้าใหม่ รวมถึงรายได้เวียดนามที่พุ่งขึ้น ขณะที่ Margin ปรับตัวดีขึ้น จากการควบคุมต้นทุนที่ดีและ Utilization Rate ที่สูง จบปี 2022 คาดกำไรที่ 527 ลบ. +21% y-y แนวโน้มปี 2023 คาดว่ายังแข็งแรงต่อเนื่องจาก Utilization Rate โรงงานในเวียดนามที่สูงขึ้น และ Product Mix ที่ดีขึ้นช่วยหนุน Margin เรายังคาดกำไรปี 2023 ยังโตต่อเนื่องได้เป็น 696 ลบ. +32% y-y ทำ New High ได้ต่อเนื่อง ประเมินราคาเป้าหมาย 29 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 376.66 จุด หรือ +1.11% ปิดที่ 34,245.93 จุด ขณะที่นักลงทุนรอตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า CPI จะอ่อนตัวลง
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (defence stocks)
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ
(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 33.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 80.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัสเซียประกาศแผนปรับลดการผลิตน้ำมัน ในขณะที่เช้านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 79.30 ดอลลาร์/ บาร์เรล หรือ -1.05%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 11 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 1,863.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลาดรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐในวันนี้ ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 1,866.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.17%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 920.79 / –