ติดตาม CPI สหรัฐฯ คืนนี้
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,664.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 52,860.52 ล้านบาท รอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนวันพรุ่งนี้ ทำให้ยังชะลอการลงทุนในช่วง 2 วันนี้
แนวโน้มตลาดวันนี้… ตลาดจับตาข้อมูลตัวเลข CPI สหรัฐ คาดการณ์ขยายตัว 6.2%YoY ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 6.4%YoY หากออกมาดีตามคาดจะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อการส่งสัญญาณของทิศทางอัตราดอกเบี้ย สหรัฐฯ ในระยะต่อไป ซึ่งคาดว่ามนการประชุม FOMC ในรอบมี.ค. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% และจะขึ้นอีกครั้งในการประชุมเดือน พ.ค. อีก 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ก่อนจะคงที่ระดับนี้ไปตลอดทั้งปี ด้าน US Bond yield เริ่มปรับตัวลงตามกันกับ Dollar index ที่อ่อนค่าลงตามการแข็งค่าของค่าเงิน EURO หลังกลุ่ม EU ปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้ขึ้นเป็น +0.9% (จากเดิม +0.3%) รวมถึงอัตราเงินเฟ้อลดลง +6.4% จากปี 65 ที่ +9.2% และให้มุมมองที่ความเสี่ยงเกิด recession ลดลง แต่ยังมีความเสี่ยงอยู่ โดยเฉพาะประเด็นรัสเซีย- ยูเครน ซึ่งล่าสุดรัสเซียประกาศแผนปรับลดการผลิตน้ำมัน โดยจะไม่จำหน่ายนํ้ามันให้แก่ชาติที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำหนดเพดานราคานํ้ามันและผลิตภัณฑ์นํ้ามันของรัสเซีย กดดันให้ราคานํ้ามันดิบยังผันผวน เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ สำหรับปัจจัยในประเทศติดตามการประกาศงบ 4Q ของบจ. ประเด็นการลดค่าไฟ หลังราคาก๊าซธรรมชาติเหลวปรับตัวลงเหลือ 15-16 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู หากมีแนวโน้มลงต่อเนื่อง จะทำให้การพิจารณาค่า ft งวด เดือนพ.ค.-ส.ค. 2566 มีแนวโน้มลดลงได้ และอาจต่ำกว่า 5 บาท (ปัจจุบันค่า ft ประเภทบ้านที่อยู่อาศัยมาราคา 4.72 บาท/หน่วย และประเภทอื่นๆ มีราคา 5.33 บาท/หน่วย) เป็นบวกต่อกลุ่ม domestic play แต่เป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า
คาดการณ์วันประกาศงบ… 14 ก.พ. BTS TLI KEX PLANB 15 ก.พ. AMANAH DELTA OR
ติดตาม… 14 ก.พ. CPI ม.ค. สหรัฐ คาด +6.2%YoY, GDP 65 EU คาดทรงตัวที่ 1.9%YoY 16 ก.พ. PPI ม.ค. สหรัฐ 17 ม.ค. GDP 4Q65 ของไทย คาดว่าขยายตัว 3.5%
กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index ยังมีความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจคู่ค้าที่อ่อนแอ แต่มีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่ยังแข็งแกร่ง ระยะสั้นประเมินตลาดแกว่งตัว sideway แนะนำ Trading ในกรอบ 1660-1680 และ Selective buy ในธีม 1. Domestic play CPALL MAKRO HMPRO SNNP CPN PLAT 2. Dividend stock KKP TISCO TASCO SPALI PSL 3. Defensive BDMS BH PR9 ADVANC Fund flow rotation… เก็งกำไรกลุ่มงบที่ออกมาดีกว่าคาด/ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เช่น JMT PTTGC ANAN MEB
เคาะไป คุยไป CRC
- CRC ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 20% และมีโอกาสท่าได้สูงกว่าเป้า หลังมีการคลี่คลายมาตรการโควิดที่ดีขึ้น รวมถึงยังขยาย GPM จากปี 64 ที่ 25.3% ขึ้นได้อีกราว 1.2-1.5% ด้าน ROE จะกลับมาเหนือระดับ 10% ได้ในปี 65
- ต้านแนวโน้ม 4Q65 ผู้บริหารประเมินรายได้รวม และยอดขายต่อสาขา (SSSG) มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง QoQ ในทุกประเทศทั้งไทย, เวียดนาม, และอิตาลี เนื่องจากเป็นช่วง high season แต่อาจทรงตัว YoY จากฐานที่สูง
- ส่วนแผนในปี 66 ยังขยายตัวต่อเนื่องในระดับ double digit จากแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ช่วง 1Q66 และมีแผนขยายสาขาธุรกิจใหม่ราว 2-3 สาขา ขณะที่บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงรับ Sentiment เชิงบวก หลังภาครัฐมีการต่ออายุลดภาษี เซลอีก 4 เดือน ช่วยลดต้นทุนค่า ไฟฟ้าของ CRC แต่อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าแม้จะมีการปรับขึ้นค่าไฟ CRC ก็สามารถส่งต่อต้นทุนไปยังผู้เช่าได้
- ในเชิง Sentiment ได้รับปัจจัยบวกจาก 1. กรุ๊ปทัวร์ชาวจีนจะเดินออกนอกประเทศอย่างเป็นทางการหนุน Traffic ภายในห้าง 2. MEB จะ IPO เข้าตลาดในวันนี้ เป็นการ unlock value ของบ.ลูก และ 3. ได้อานิสงส์บวกทางอ้อมจากการที่ลูกค้าเร่งใช้โครงการ ช้อปดีมีคืน ที่จะหมดอายุ 15 ก.พ. นี้
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้น คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะอ่อนแรงลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวก จากการที่รัสเซียประกาศแผน ปรับลดการผลิตน้ำมัน เช่นเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ และรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันพรุ่งนี้
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับตัวลง นักลงทุนรอดูข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
