Our View? “สดใสมากขึ้น”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,660 / 1,656 และแนวต้านที่บริเวณ 1,670 / 1,680 คาดจะให้น้ำหนักไปกับการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ม.ค. ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญตัวหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.2% YoY ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 6.5% YoY แต่ +0.5% MoM เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าบ้างเล็กน้อย คาดจะทําให้ตลาดมีความผันผวนได้บ้างในระยะสั้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลดทอนความกังวลเกี่ยวกับการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED บ้าง หลังจากในช่วงก่อนหน้าตลาดกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือระดับ 5.0% และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับคุมเข้ม (Restrictive Level) ยาวนานกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ Dollar Index เริ่มชะลอกำลังลงแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบจํากัด สะท้อนความกังวลของตลาด และภาวะ Risk-off เริ่มลดลงไปบ้าง คาดจะช่วยผ่อนคลายให้ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มกลับมาฟื้นตัวกลับขึ้นได้

อย่างไรก็ดี เราแนะนำติดตามความกังวลเกี่ยวกับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ หลังจาก NATO เตรียมจัดส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน คาดจะเพิ่มความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียให้มีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียออกแถลงการณ์ให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดือนทางไปรัสเซีย และให้ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ออกจากประเทศรัสเซีย มองเป็นสัญญาณเชิงลบต่อสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าว มีโอกาสรุนแรงมากขึ้น คาดจะเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้างในระยะสั้น ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้ยังสามารถแกว่งตัวขึ้นได้ต่อปิดที่ระดับ 80.14 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.42 ดอลลาร์ (+0.53%) ยังคงได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานในรัสเซียมีแนวโน้มจะลดลงอีก หลังจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยว่ารัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 5 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน มี.ค. หรือราว 5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด รวมทั้งรัสเซียจะไม่ขายนํ้ามันให้กับชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับการกำหนดเพดานน้ำมันรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เราแนะนําระมัดระวังประเด็นตุรกี คาดจะเริ่มสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง หลังจากเผชิญความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง คาดจะจํากัด Upside การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

สําหรับปัจจัยในประเทศคาดตลาดหุ้นไทย เรายังมีความกังวลอ่อนๆ ต่อแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกได้บ้างในระยะสั้น หลังจากค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าตามการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดพยายามขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 33.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +/- ขณะที่การรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ของหุ้นไทยในหลาย Sector ที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด คาดจะกดดันทิศทาง EPS ของตลาดในปีนี้ลดลงได้บ้าง เป็นปัจจัยเร่งการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติได้บ้างเช่นกัน คาดจะกดดัน-จํากัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเชิงบวกในภาพระยะกลางต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Re-Opening อาทิ AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, CRC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI และ PLANB ได้ต่อ รวมทั้งแนะนําให้ติดตามการรายงานตัวเลข GDP 4Q65 ของไทย คาดจะออกมาที่ระดับ 3.6% YoY และ 0.6% QoQ ขณะที่ทั้งปี’65 จะอยู่ที่ระดับ 3.2% เป็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์ COVID-19

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “CRC”

กลยุทธ์ แนวรับ 45.00 1 44.25 Target 47.00 / 48.00 Stop <43.75

- Advertisement -