KEX แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท

ผลประกอบการ 4Q22

KEX ขาดทุนหนักขึ้นเป็น 929 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 605 ล้านบาท ใน 4Q21 และ 732 ล้านบาทใน 3Q22 แย่กว่าทั้งประมาณการของเราและของตลาด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวซึ่งเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 384 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักก็มีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งหากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ผลขาดทุนจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 545 ล้านบาท ดีขึ้นจากที่ขาดทุน 605 ล้านบาทใน 4Q21 และขาดทุน 676 ล้านบาทใน 3Q22 แต่ยังต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้เพราะรายได้ลดลงใน 4Q22 เนื่องจากยังคงมีการแข่งขันทางด้านราคาอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2022 ผลขาดทุนจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 2.44 พันล้านบาท จากที่มีกำไร 47 ล้านบาทในปี 2021

แนวโน้ม

เน้นให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในปี 2023

สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในปี 2023 คือการดำเนินโครงการ LEAN โดยหลังจากที่มีการลดพนักงานลงไปแล้วใน 4Q22 ขั้นต่อไปคือการนำระบบที่ SF พิสูจน์มาแล้วว่าประสบความสำเร็จมาใช้ ดังนั้น บริษัทจะนำระบบ automation และ digitalization มาใช้มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาแรงงานคน นอกจากนี้ การใช้ระบบ automation และ digitalization มากขึ้นยังจะช่วยให้บริษัทมีการแบ่งส่วนตลาดได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย ดังนั้น บริษัทจึงสามารถให้บริการแก่ลูกค้าที่เหมาะสมด้วยต้นทุนที่เหมาะสม โดยสรุปแล้ว เป้าในปี 2023 ได้แก่ i) รายได้จะทรงตัวเพราะตลาด e-commerce ชะลอตัวลง  ii) บริษัทจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับกำไรสุทธิภายใน 3Q23 จากโครงการลดต้นทุน

นัยยะ / คำแนะนำ

แนะนำถือ โดยปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 16.50 บาท จากเดิมที่ 19.50 บาท

จากเป้าที่ผู้บริหารบอก เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถลดต้นทุนได้ เพราะบริษัทมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำให้ได้ตามกลยุทธ์นี้ แต่เราไม่คิดว่ารายได้ของบริษัทจะทรงตัวได้ท่ามกลางตลาด e-commerce ที่ซบเซา ซึ่งทำให้เราคาดว่าจะต้องมีการใช้กลยุทธ์ด้านราคาในปี 2023 ซึ่งจะฉุดให้รายได้ลดลง เราปรับลดประมาณการปี 2023 โดยคาดว่าจะมีผลขาดทุนหนักขึ้น (ดู figure 2) ดังนั้น เราจึงปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 16.50 บาท จากเดิมที่ 19.50 บาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำถือ เนื่องจากราคาหุ้นร่วงลงมามากแล้วในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา